เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 11 เมษายน นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร ได้แถลงข่าวการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันลักลอบนำเข้าน้ำมันผิดกฎหมาย จำนวน 2 ลำ พร้อมลูกเรือ จำนวน 9 คน ซึ่งลักลอบบรรทุกน้ำมันดีเซลเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ปริมาณรวมกว่า 140,000 ลิตร มูลค่าของกลางประมาณ 5,500,000 บาท ณ หน่วยสืบสวนปราบปรามสมุทรปราการ สำนักสืบสวนและปราบปราม
นายชัยยุทธ แถลงว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การลักลอบค้าน้ำมันผิดกฎหมายในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มรุนแรง และเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกรณีดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ อย่างร้ายแรง ในการนี้ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้มอบหมายให้ นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการควบคุมทางศุลกากร นายธาดา ชุมไชโย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม นายไชยทัต นิวาศะบุตร รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนและปราบปราม และนายประชา ศรีบุญส่ง ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สำนักสืบสวนและปราบปราม จัดเตรียมแผนในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์การลักลอบค้าน้ำมันผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง
นายชัยยุทธ กล่าวว่า จากการสืบสวนและเฝ้าติดตามของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สำนักสืบสวนและปราบปราม ได้ทราบว่าจะมีเรือบรรทุกน้ำมันจำนวน 2 ลำ ลักลอบทำการบรรทุกน้ำมันดีเซลที่ขนถ่ายนอกทะเลอาณาเขตเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายผ่านทางทะเลฝั่งอ่าวไทย ในการนี้จึงได้สั่งการให้ นายธนธัช ศิริสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 1 นำเรือตรวจการณ์ศุลกากร 1001 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ออกไปทำการตรวจสกัด จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 00.26 น. ของวันที่ 9 เมษายน ขณะที่เรือตรวจการณ์ได้ลอยลำเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่บริเวณปากน้ำประแส จังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่ได้พบกับเรือบรรทุกน้ำมันจำนวน 2 ลำ ทราบชื่อต่อมาคือเรือ น. นำโชค และเรือพรานทะเล 9 ได้ล่องเข้ามาในน่านน้ำ ซึ่งเรือทั้งสองลำดังกล่าวมีลักษณะถูกต้องตรงกันกับข้อมูลการข่าวของเจ้าหน้าที่ที่ได้มีการสืบทราบ จึงแสดงตนขอเข้าทำการตรวจค้น
นายชัยยุทธ กล่าวว่า ผลการตรวจพบเรือทั้งสองลำมีการบรรทุกน้ำมันดีเซลจริง โดยเรือ น. นำโชค บรรทุกน้ำมันประมาณ 80,000 ลิตร และ เรือพรานทะเล 9 บรรทุกประมาณ 60,000 ลิตร ซึ่งจากการตรวจสอบพยานหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นไม่พบเอกสารใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าการนำเข้าน้ำมันดีเซลดังกล่าวนั้นชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดเรือทั้งสองลำดังกล่าวพร้อมของกลางน้ำมันดีเซลประมาณ 140,000 ลิตร พร้อมควบคุมตัวลูกเรือจำนวน 9 คน กลับมายังหน่วยสืบสวนปราบปรามจังหวัดสมุทรปราการ สำนักสืบสวนและปราบปราม เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
“ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2561 ที่ผ่านมา สำนักสืบสวนและปราบปราม ได้มีการตรวจยึดน้ำมันดีเซลผิดกฎหมายแล้วกว่า 7 แสนลิตร คิดเป็นมูลค่าของกลางรวมประมาณ 20 ล้านบาท อนึ่ง เมื่อวัน 5 เมษายนที่ผ่านมา สำนักสืบสวนและปราบปราม ได้มีการปล่อยแถวเรือ ตรวจการณ์ออกปฏิบัติการลาดตระเวนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว เพื่อเป็นการร่วมดูแลความปลอดภัยผู้เดินทางท่องเที่ยวทางทะเล และเฝ้าระวังการกระทำความผิดตามกฎหมายในส่วน ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรณีดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายที่อธิบดีกรมศุลกากรได้มอบไว้” นายชัยยุทธ กล่าว
