ส่อวุ่น! หลังมติให้ขายบนลานข่วงท่าแพ ผู้ค้าบ่นรายชื่อมากเกินจริง บางรายกลับไม่มีทั้งที่อยู่มานาน

วันที่ 23 พฤษภาคม เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ บริเวณศูนย์ราชการเชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ คณะทำงานการรับลงทะเบียนผู้ค้าบนลานประตูท่าแพ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ธนารักษ์ฯ และเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่เชียงใหม่ 1 ตั้งโต๊ะเปิดรับลงทะเบียนเพื่อคัดเลือกเป็นผู้เช่าลานประตูท่าแพ ในการจัดกิจกรรมถนนคนเดินวันอาทิตย์ ซึ่งตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด พ่อค้าแม่ค้าต้องเแนบสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาเอกสารแสดงการยื่นภาษีปี 2558 โดยแยกเป็นจำหน่ายสินค้าและจำหน่ายอาหาร โดยเริ่มมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าทยอยเดินทางมารับแบบคำร้องขอลงทะเบียน เพื่อคัดเลือกเป็นผู้ค้าบนลานประตูท่าแพมากกว่า 200 รายแล้ว

เจ้าหน้าที่ธนารักษ์ฯ เปิดเผยว่า ตามบัญชีรายชื่อที่ได้มาล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม จากเจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลนครเชียงใหม่ มีรายชื่อพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของบนลานประตูท่าแพทั้งหมด 1,095 ราย เมื่อพ่อค้าแม่ค้ามายื่นคำร้อง เจ้าหน้าที่ก็จะนำมาตรวจสอบว่าตรงกันหรือไม่ เพื่อขึ้นบัญชีไว้ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกต่อไป เพราะหากเกินจำนวน 264 ร้านค้าตามที่คณะกรรมการ 4 ฝ่ายกำหนด ก็ต้องดำเนินการจับสลากเพื่อความยุติธรรม เท่าที่ทราบมีหลายรายที่ไปย้ายโอนทะเบียนบ้านจากที่อื่นมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่แล้ว เพราะตามกฎที่ตั้งไว้ไม่ได้ระบุว่าต้องก่อนหน้ากี่วันหรือกี่เดือน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่เชียงใหม่ 1 กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบรายชื่อ 1,095 ราย พบว่ามีเพียง 6-7% เท่านั้นที่ยื่นเสียภาษีเงินได้ แต่ทั้งนี้อาจจะอยู่ที่การสะกดชื่อและนามสกุลไม่ตรงกันก็เป็นได้ ต้องรอรายละเอียดเพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ซึ่งตลอดวันนี้และพรุ่งนี้อีก 1 วัน สรรพากรพื้นที่เชียงใหม่ยังเปิดโอกาสให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้ายื่นเสียภาษีย้อนหลังได้ โดยประเมินรายได้จากการเร่ขายสินค้าตามที่ต่างๆ รวมกัน เพราะหากมีรายได้ 30,000 บาทต่อปี คนไทยทุกคนมีหน้าที่ยื่นเสียภาษีต่อรัฐเพื่อความถูกต้อง ซึ่งเท่าที่ดูรายชื่อและรายได้ส่วนใหญ่ไม่มีภาษีต้องเสีย แต่ต้องเสียค่าปรับจากการยื่นเสียภาษีย้อนหลังประมาณ 200 บาทต่อคน

ทั้งนี้ในวันเดียวกันได้มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าอีกส่วนหนึ่งทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในการจัดการพื้นที่ให้ขายของบนลานประตูท่าแพ ต่อ ผบ.มทบ.33 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ และผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ผ่านศูนย์ดำรงธรรมและธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ โดยระบุว่า ปัญหากำลังจะเกิดตามมามากมาย เพราะงานเทศกิจ เทศบาลนครเชียงใหม่ นำบัญชีรายชื่อเดิมเมื่อ 6-7 ปี มาแจ้งให้ธนารักษ์ฯ และเกินกว่าพ่อค้าแม่ค้าที่มีอยู่จริง เนื่องจากบางรายตายและไปประกอบอาชีพอื่นแล้ว ไปนำรายชื่อ 1,095 ราย มาจากไหน เพราะหากให้ขายคนละล็อกก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าจริงๆ เพียง 470 ร้านค้าเท่านั้น ถือเป็นการหมกเม็ดให้พรรคพวกมีผลประโยชน์ในการจัดสรร และบางรายเป็นบุคคลที่อยู่ในชุมชนที่เทศบาลนครเชียงใหม่มีอิทธิพลครอบงำอยู่ ไม่แยกพ่อค้าขายสินค้าและอาหารออกจากกัน ทำให้เกิดความขัดแย้งกันเอง ถือว่าเทศบาลนครเชียงใหม่ไม่ปฏิบัติตามที่คณะกรรมการ 4 ฝ่าย มีมติไว้

Advertisement

นายทวีศักดิ์ วิริยะศิริเลิศ พ่อค้าขายน้ำส้ม กล่าวว่า เทศบาลฯ นำหลักฐานเท็จมาแสดงต่อธนารักษ์ อยู่ดีๆ โผล่มาจากไหนเป็น 1,000 ราย จึงอยากมาขอความเป็นธรรม และให้เรียกพ่อค้าแม่ค้าด้วยกันมาเป็นพยานให้ แล้วค่อยมาจับสลาก และเมื่อจับไม่ได้ก็ขอให้นำไปแทรกลงบนถนนคนเดิน เราจึงจะยินยอม และเท่าที่ทราบเทศบาลแจ้งว่าทางกรมศิลปากรอนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่แน่นอน โดยมีหลักฐานการขอใช้พื้นที่มาแสดงกับพ่อค้าแม่ค้าแล้ว

201605231408063-20021028190355

ทางด้านนางสุธา ฤทธิ์เนติกุล ชาวไทยภูเขา กล่าวว่า ตนเองขายสินค้าหัตถกรรมมานาน 13 ปี ตั้งแต่เริ่มต้นบนลานประตูท่าแพ และเราไม่เคยเสียภาษี จะเอาคนกลุ่มนี้ไปไว้ที่ไหน เรียกว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน และที่สำคัญคือ รูปแบบที่ออกมาแนวขายสินค้าโอท็อปปักธงทิว ชาวต่างประเทศที่มาเดินถนนคนเดินเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้ เขาชอบความจอแจแออัดและความไม่มีระเบียบของเรานี่แหละ จัดให้สวยมากๆ เขาไม่มาเดินซื้อของ เพราะเขาไม่แน่ใจว่าสินค้าจะถูกจริง เราขอแบบเดิมและรับปากว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อน จะดูแลขยะและร้านให้สะอาด คนจนเจ็บปวดมาก และเราทุกคนเป็นคนไทย

Advertisement

ในขณะที่นางวรรณ มโนวรรณ บอกว่า เธอเป็นคนจังหวัดเชียงราย แต่มาขายของบนลานประตูท่าแพ 13 ปีแล้วเช่นกัน ซึ่งไม่เข้าเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนดไว้เลย จึงอยากขอความเป็นธรรมให้ได้ขายของและไม่ต้องการจับสลาก

ส่วนนางบุณยนุช แซ่เตีย บอกว่า ตนเองมีล็อกขายของบนลานประตูท่าแพ 4 ล็อก ให้ลูกขายทั้งหมด แต่เมื่อมาถึงวันนี้ปรากฏว่าไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีเลย เท่ากับตกสำรวจซึ่งไม่เข้าใจว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะก็ขายของมาตั้งแต่ลูกอายุ 6 ขวบ ตั้งแต่เริ่มต้น จึงยอมไม่ได้เช่นกัน เรื่องนี้เป็นปัญหาของชาวบ้านที่ผู้ใหญ่จะเข้ามาแก้ได้ง่ายๆ แต่ไม่ทำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image