แบงก์ปลอมระบาด วัยรุ่นสาวไปซื้อสินค้าได้เงินทอนมา ก่อนมาตรวจสอบทีหลังพบว่าเลข 0 หายไปและตัวธนบัตรเปื่อยยุ่ย ตัดสินใจเข้าแจ้งความกลับถูกตำรวจบอกว่าถ้าแจ้งความคนที่มีในครอบครองจะต้องติดคุก
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่นได้มีการเผยแพร่ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ประนิธาน ดอกพุฒ” ที่ได้มีการโพสต์ภาพธนบัตรฉบับละ 100 บาท พร้อมข้อความว่า “เล่นแล้ว เล่นงานฉันแล้ว แบงค์ปลอม มาอีกแล้วครับเจออยู่ที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น”
เมื่อสอบถามไปยังผู้โพสต์เฟซบุ๊ก เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบกับ น.ส.ประภัสรา ดอกพุฒ อายุ 16 ปี ชาวหมู่ 12 ต.หนองน้ำใส อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น น.ส.ประภัสราบอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ไปซื้ออะไหล่รถจักรยานยนต์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ร้านค้าแห่งหนึ่งริมถนนเจ้าเงาะ ในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ รวมเป็นเงิน 300 บาท จึงได้จ่ายเงินไปด้วยธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ให้กับทางร้านค้า ก่อนที่ทางร้านจะทอนเงินให้ 700 บาท โดยเป็นธนบัตรฉบับละ100 บาท รวม 7 ฉบับ ซึ่งเมื่อรับเงินทอนมาแล้วจึงเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ไว้แล้วก็กลับบ้าน โดยขณะกลับบ้านก็ถูกสาดน้ำ เพราะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์จึงเปียกไปทั้งตัวและกระเป๋าสตางค์ด้วย
“เมื่อกลับมาถึงบ้านจึงนำเงินทั้งหมดไปตากแดดปรากฏว่ามีธนบัตร 1 ใบ เลข 0 หาย เนื้อกระดาษของธนบัตร เปื่อยยุ่ย จึงเชื่อว่าเป็นธนบัตรปลอม จึงเก็บเอาไว้และนำไปที่ สภ.บ้านไผ่ เพื่อลงบันทึกประจำวันว่าธนบัตรฉบับละ 100 บาท ที่รับเป็นเงินทอนมานั้นมี 1 ใบเชื่อว่าน่าจะเป็นเงินปลอม เและคิดว่าน่าจะมีคนอื่นเจอเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งเมื่อได้นำธนบัตรดังกล่าวมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า ต้องรอพนักงานสอบสวน เพราะคนที่มีธนบัตรปลอมไว้ในครอบครองจะมีความผิด จนถึงขั้นติดคุก และถ้าแจ้งความแล้วต้องมีการสืบสวนสอบสวน หากพิสูจน์ไม่ได้ คนที่มีจะถูกคุมตัวเข้าห้องขัง เมื่อได้ยินเช่นนี้ จึงเกิดความกลัวว่าจะมีความผิด จึงยังไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใด เพราะฟังจากที่ตำรวจพูดแล้ว เหมือนว่าตัวเองเป็นคนผิด มีความผิด และจะถูกจับเข้าห้องขัง จึงเดินทางกลับบ้านทันที”
ขณะที่ พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า กรณีของธนบัตรปลอมนั้น ใครที่มีไว้ในครอบครองมีความผิดตามกฎหมายจริง แต่ผู้ที่เจอหรือได้ธนบัตรปลอมมาจากเงินทอน หรือจากการซื้อขายสินค้านั้น สามารถนำธนบัตรเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ได้ ซึ่งเมื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันแล้ว พนักงานสอบสวนก็จะมีการสอบสวน และสืบสวนหาที่มาของธนบัตร ว่าผู้แจ้งได้มาอย่างไร อีกทั้งผู้แจ้งต้องมีพยานหลักฐานในการได้มาของธนบัตรด้วย เช่น พยานบุคคล หรือกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นหลักฐานพิสูจน์ทราบความบริสุทธิ์ของตัวเอง ส่วนพนักงานสอบสวนก็จะทำการพิสูจน์ทราบตามขั้นตอนว่าธนบัตรฉบับดังกล่าวนั้นปลอมจริงหรือไม่ เพื่อจะได้มีการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป
