ชาวสีคิ้วเดินขบวนค้านโรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นสร้างมลพิษให้ชาวบ้าน

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 เมษายน ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นางสาวสุรีรัตน์ ด่านกุล แกนนำกลุ่มชาวสีคิ้วคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวลพร้อมชาวสีคิ้ว ส่วนหนึ่งสวมเสื้อยืดสีเขียว “เราไม่เอาโรงไฟฟ้าชีวมวล” นัดรวมตัวสำแดงพลังคัดค้านการดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าชีวมวล ของบริษัท ยูนิพาวเวอร์เทค จำกัด โดยลงทุนก่อสร้างฯ มูลค่า 800 ล้านบาท บนที่ดินกรรมสิทธิ์ประมาณ 200 ไร่ ที่บ้านหนองรี หมู่ 3 เขตองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สีคิ้ว อ.สีคิ้ว ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตลาดสดและแหล่งชุมชนประมาณ 2 กิโลเมตร

โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้นำเศษไม้ เปลือกไม้และรากเหง้ามันสำปะหลังรวมทั้งวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าขนาดกำลัง 9.9 เมกะวัตต์ เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เนื่องจากชาวสีคิ้วเกรงผลกระทบต่อชุมชนทั้งมลพิษทางอากาศ พื้นที่เกษตรกรรม ลำรางน้ำสาธารณะและระบบนิเวศ อีกทั้งการออกใบอนุญาต ซึ่งมีกระบวนการและรวบรัดขั้นตอนจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย การจัดประชาคมเพื่อรับฟังความคิดเห็น ซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานรัฐและผู้ประกอบการให้ข้อมูลไม่ทั่วถึงและครบถ้วนทำให้ชาวบ้านขาดโอกาสเข้าถึงข้อมูลอย่างเพียงพอ

กลุ่มผู้คัดค้านประมาณ 200 คน ได้เดินเท้าจากสนามหน้าที่ว่าการอำเภอ พร้อมถือป้ายไวนิลและกระดาษเขียนข้อความ “ ชาวสีคิ้ว ที่มีลูกหลานเป็นรัฐมนตรีและเป็นผู้ว่าฯ ” “ สีคิ้วจะถึงคราววิบัติแล้วหรือ ” เป็นต้น  จากนั้นได้มอบหนังสือให้กับนายชัยวัฒน์ เหล็กจันอัด ปลัดอาวุโส อ.สีคิ้ว ได้มารับแทนนายอำเภอสีคิ้ว ซึ่งติดภารกิจราชการ จากนั้นได้เดินทางไปที่หน้าโรงไฟฟ้าฯ และศูนย์ประสานงานนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ว่าที่ ส.ส เขต 3 พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าฯ เรื่อง ขอให้ตรวจสอบและมีคำสั่งระงับการดำเนินกิจการของโรงงานไฟฟ้าชีวมวล

นางสาวสุรีรัตน์ แกนนำกลุ่มชาวสีคิ้วคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวล เปิดเผยว่า ลำดับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560 ศาลปกครองนครราชสีมา ได้นัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ ส.11/2559 คดีหมายเลขแดงที่ ส.12/2560 โดยมีตนพร้อมพวกรวม 222 คน เป็นผู้ฟ้องคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา นายก อบต.สีคิ้ว และบริษัท ยูนิพาวเวอร์เทค จำกัด เรื่องคดีพิพาทกับหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (อ.1) และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง. 4) จากนั้นผู้ถูกฟ้องคดีได้ยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด ภายหลังตุลาการมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งทุเลาการบังคับคดีของศาลปกครองนครราชสีมาให้ใบอนุญาตทั้ง 2 ฉบับ สามารถใช้ได้ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ปรากฏบริษัท ยูนิพาวเวอร์ จำกัด ได้ดำเนินก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมวล หลังหยุดดำเนินการตามคำสั่งศาลา ฯ เป็นเวลาประมาณ 1 ปี จนแล้วเสร็จและทดลองเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และสุขภาวะอนามัยของชาวสีคิ้วที่มีที่ทำกินและบ้านพักอาศัยในละแวกที่ตั้งโรงไฟฟ้า รัศมีประมาณ 1-2 กิโลเมตร โดยพ่นมลพิษส่งกลิ่นเหม็นควันคล้ายขยะจนแสบจมูก

Advertisement

นางจุรีรัตน์กล่าวว่า โดยจริยธรรมและความชอบธรรม ควรรอให้มีคำพิพากษาถึงที่สุด เงื่อนไขการออกใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า โรงไฟฟ้า ต้องทำประมวลหลักการปฏิบัติ (Code of Practice) ว่าด้วยมาตรการป้องกันแก้ไขและติดตามตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมสำหรับโรงไฟฟ้าที่มีกำลังผลิตต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์ โดยจัดและเปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกมิติ แต่โรงไฟฟ้ามิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อกำหนดดังกล่าว เมื่อไม่ดำเนินการการออกใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าฯ ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ชาวสีคิ้วอยู่ระหว่างเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองนครราชสีมา พร้อมยื่นหนังสือให้ผู้มีอำนาจในบ้านนี้เมืองนี้ให้ความสำคัญในการดูแลปกป้องรักษาความสงบสุขของประชาชนในท้องถิ่นให้ได้รับ ความปลอดภัย ความร่มเย็นในทุกๆ ด้าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image