พ่อแม่น้องนิว เหยื่อปืนและพยาน ร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มครองหลังมือปืนหลบหนี ขณะทีมร่วมฆ่าได้รับการประกันตัว หวั่นครอบครัวและพยานสำคัญไม่ได้รับความปลอดภัยเนื่องจากมีการข่มขู่ฆ่ายกครัว
เมื่อวันที่ 23 เมษายน ความคืบหน้าคดีนายธีรวัฒน์ บูรณ์ชะนะ หรือน้องนิว อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง ถูกนายธีรยุทธิ์ สมสู่ อายุ 51 ปี ร่วมกับพวกอีก 2 คน คือ นายปัญญา บุญคง (นายโจ) อายุ 44 ปี และนายยงค์ (ยงค์) บัวนุ้ย อายุ 50 ปี ดักซุ่มยิงระหว่างทาง ขณะผู้เสียหายพร้อมน้องนิวกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยคนร้ายทั้ง 3 คนยิงผิดคนกระสุนถูกนายธีรวัฒน์ (น้องนิว) เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2561 โดยก่อนผู้ต้องหา 2 คนเข้ามอบตัวและได้รับการประกันตัวไปแล้วนั้น แต่นายธีรยุทธิ์ มือปืนยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี ล่าสุดนายอนันต์ และนางสอง บูรณ์ชะนะ พ่อและแม่ของนายธีรวัฒน์ ส่งหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ เพื่อถวายฎีกาขอพึ่งพระบารมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พร้อมกับร้องตำรวจกองปราบให้ลงมาคลี่คลายคดี เนื่องจากไม่เชื่อมั่นการทำงานของตำรวจในพื้นที่
ล่าสุด นายอนันต์ และนางสอง บูรณ์ชะนะ พ่อและแม่ของนายธีรวัฒน์ (น้องนิว) เดินทางไปพร้อมกับนายวัชรพล (นายวรวัฒน์) กลับจิต อายุ 42 ปี ชาวหมู่ 5 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง ผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อเรียกร้องให้ตำรวจเร่งจับกุมนายธีรยุทธิ์ ผู้ต้องหารายสำคัญคนดังกล่าวโดยเร็วที่สุด และร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่รับนายวัชรพล ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญในคดี เข้ารับการคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะคดีผ่านมาเกือบจะ 5 เดือนแล้ว แต่ตำรวจยังติดตามจับนายธีรยุทธิ์ไม่ได้ ขณะที่ผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว และยังมีพฤติกรรมติดตามข่มขู่ จนทำให้นายวัชรพลและครอบครัว รวมทั้งครอบครัวของพี่สาว พี่เขย รวมเกือบ 10 ชีวิต ต้องทิ้งบ้านหนีเอาตัวรอดไปอาศัยอยู่กับบุคคลอื่น ไม่เป็นหลักแหล่ง ย้ายที่นอนไปเรื่อยๆ ไม่มีงานทำ ทำให้ครอบครัวทั้งหมดเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
เนื่องจากนายวัชรพล (ผู้เสียหาย) และพี่สาว พี่เขยของนายวัชรพล ถูกนายธีรยุทธิ์ และภรรยา รวมทั้งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ร่วมขู่ฆ่ายกครัวมาโดยตลอด จึงทำให้ต้องหนีออกจากบ้านไปอาศัยที่อื่นไม่เป็นหลักแหล่ง จึงวอนขอให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งหาทางคุ้มครอง โดยก่อนหน้านี้ที่ทางตำรวจออกมาให้ข่าวว่าตนเองและครอบครัวอยู่ในความคุ้มครองของเจ้าหน้าที่แล้วไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตนเองยังต้องหลบหนี ย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ ไม่เป็นหลักแหล่ง เพราะยังถูกบุคคลแปลกหน้าติดตามไปถามหาแหล่งที่พักตลอดเวลา ขณะเดียวกันทั้ง 3 คน เรียกร้องให้ทางตำรวจนำตัวภรรยาของนายธีรยุทธิ์ผู้ต้องหารายสำคัญมาสอบปากคำ และดำเนินคดีด้วย เนื่องจากได้ร่วมขู่ฆ่านายวัชรพลและครอบครัวพี่สาว พี่เขยด้วย จนมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.หนองตรุด แล้ว แต่ตำรวจยังไม่ดำเนินคดีใดๆ
นายวัชรพลกล่าวว่า ขณะนี้ตน ภรรยาและครอบครัว ซึ่งยังอยู่ในสภาพจิตใจที่บอบช้ำอย่างหนัก ยังคงร้องไห้และใจสั่น นอนไม่หลับ และฝังใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใครมาก่อน และไม่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงจนถึงขั้นต้องฆ่ากันตายแบบนี้ จึงยังทำใจไม่ได้ และเสียใจต่อการเสียชีวิตของน้องนิว ขณะเดียวกัน ยังได้เปิดให้ดูบาดแผลบริเวณต้นแขนซ้าย ซึ่งยกไม่ได้ พร้อมเล่าถึงอาการบาดเจ็บล่าสุดว่ายังเจ็บแผลอยู่ โดยหมอระบุว่าแขนซ้ายจะไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เนื่องจากกระสุนปืนตัดเส้นเลือดใหญ่และทำลายกล้ามเนื้อต้นแขน จึงทำให้กลับมาใช้งานไม่ได้ตามปกติแล้ว
