ชี้ พ.ร.บ.จัดตั้ง อปท.ล้าหลัง เปิดช่องผู้ว่าฯใช้อำนาจถึงที่สุดสั่ง ปลดนายก อบจ.ได้

อดีต กก.ยกร่าง กม.ท้องถิ่น ชี้ พ.ร.บ.จัดตั้ง อปท.ล้าหลัง เปิดช่องผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจถึงที่สุดสั่งปลดนายก อบจ.

วันที่ 24 เมษายน นายบรรณ แก้วฉ่ำ นิติกรชำนาญงาน องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พระนครศรีอยุธยา อดีตกรรมการการยกร่างประมวลกฎหมายท้องถิ่น เปิดเผยว่า จากการติดตามการแก้ไขกฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) ที่ประกาศในราชกิจบุเบกษาและมีผลบังคับใช้ หลายฝ่าายตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้เชิญผู้แทนของ อปท. เช่น สมาคมผู้บริหารท้องถิ่นเข้าไปเสนอความเห็นหรือไม่ เนื่องจากกฎหมายที่ประกาศใช้กระทบต่อหลักการปกครองท้องถิ่นทั้งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อบจ. เทศบาล และ อบต. โดยเฉพาะ อบจ. มีความเห็นว่าล้าหลัง เช่น คำวินิจฉัยต่างๆ ที่ควรจะฟ้องศาลปกครองได้ กลับบัญญัติให้ฟ้องไม่ได้ เพราะบัญญัติไว้ให้ถึงที่สุด

“ ในกฎหมายมีคำว่า ให้ถึงที่สุดจำนวนมาก เช่น คำวินิจฉัยในระดับผู้ว่าราชการจังหวัดยังระบุให้เป็นที่สุดแล้วฟ้องศาลปกครองไม่ได้ เช่น วินิจฉัยเกี่ยวกับสมาชิกภาพสมาชิก อบจ.หรือคำวินิจฉัยให้นายก อปท.ต้องพ้นตำแหน่ง นอกจากนั้นยังมีคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี ให้เป็นที่สุดทั้งการให้ระงับหรือเพิกถอน งานราชการที่ นายก อบจ.ดำเนินการ ข้อกล่าวหาว่าการปฏิบัติหน้าที่ของนายก รองนายก ประธานสภา รองประธานสภา อบจ. ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และคำสั่งให้ นายก รองนายก ประธานสภา รองประธานสภา พ้นตำแหน่งด้วยข้อกล่าวหาว่าจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติงาน” นายบรรณ กล่าว

นายบรรณกล่าวอีกว่า สำหรับการใช้จ่ายเงินของ อบจ.เพื่อให้ผู้บริหารและสมาชิกสภา ไปดูงานต่างประเทศไม่สามารถทำได้ เว้นแต่กรณีมีข้อตกลงกับต่างประเทศ หรือที่ราชการส่วนกลางจัดให้ หรือที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด ซึ่งหมายถึงกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หรือกระทรวงมหาดไทยจัดให้ และคาดว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่ระดับกรม หรือกระทรวง เดินทางไปด้วย โดยเปิดช่องให้นำงบประมาณของ อบจ.ใช้จ่ายให้เจ้าหน้าที่กรม หรือกระทรวงเดินทางได้ ’ ประเด็นนี้ สนช.อาจบัญญัติไว้ด้วยความกังวลว่า อปท.จะใช้จ่ายเงินไปเที่ยวต่างประเทศฟุ่มเฟือย ดังนั้น ในทางปฏิบัติจึงบังคับให้ อปท. ต้องทำโครงการร่วมกับกรมส่งเสริมฯ หรือผ่านกระทรวงมหาดไทย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image