เมื่อวันที่ 24 เมษายน หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือ หน่วยพญาเสือ และหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลางหน่วยหน่วยงาน ได้เข้าตรวจสอบยังพื้นที่บ้านเลขที่ 55 ม.3 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
หลังจากมีหลักฐานจากภาพคลิปวีดีโอในยูทูป ว่ามีกลุ่มบุคคลในบ้านหลังดังกล่าว ได้นำเก้งซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน มาชำแหละทำอาหารเลี้ยงลูกน้องพร้อมเผยแพร่ลงโซเซียล
โดยได้จับกุมนายปัญญา วิรากรกุล อายุ 37 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างและงานช่างเหล็ก โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด พบบริเวณที่ทำการชำแหละ และพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นขนเก้ง รวมทั้งอุปกรณ์ในการกระทำความผิดที่เห็นในคลิปวิดีโอคือมีด
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันจับกุม นายปัญญา วิรากรกุล ตามฐานความผิดมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ได้ดำเนินการตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครองและ อุปกรณ์การกระทำความผิดนำส่ง พ.ต.ท.พีรกูล แสงฤทธิ์หลง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจสินทิวาธานี ส่วนซากสัตว์ป่าคุ้มครองที่เก็บเป็นหลักฐานประกอบคดี ได้ส่งตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ณ ศูนย์ปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชต่อไป
โดยนายปัญญา ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ซื้อเก้งมาจาก จ.สระบุรี ในราคาตัวละ 8,400 บาท นำได้นำกลับมาที่อยุธยา พร้อมได้ร่วมกับลูกน้องที่เป็นคนงานชำแหละนำเนื้อมาประกอบอาหาร และมีคนงานถ่ายคลิปเผยแพร่ลงยูทูป ทั้งนี้อ้างว่าไม่ทราบว่าเก้งเป็นสัตว์สงวนเป็นความผิด ทั้งนี้นายปัญญา ได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวไประหว่างการต่อสู้ทางคดี
