ทภ.3ส่งมอบแก้ไฟป่า-หมอกควัน 9 จว.เหนือให้ กอ.รมน.-ศูนย์อำนวยการป้องกันฯ หลังวิกฤตคลี่คลาย

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2562 พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 แจ้งไปยังศูนย์ควบคุมสถานการณ์หมอกควัน ภาคเหนือกองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ให้ทราบว่า กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ได้ออกประกาศ ส่งมอบการควบคุมการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงใหม่ (กอ.รมน.จังหวัด) / ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัด (ศอ.ปกป.จว.) ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2562 เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป โดยให้ถือประกาศนี้เป็นแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาจุด Hotspots และหมอกควันไฟป่าอย่างยั่งยืน

ในประกาศ ระบุว่า เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันได้คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งหน่วยงานในระดับจังหวัดสามารถอำนวยการและบริหารจัดการการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันได้อย่างเป็นระบบ สมควรลดละระดับการเข้ามาอำนวยการประสานงานในพื้นที่ของ บก.ควบคุมสถานการณ์หมอกควันในภาคเหนือ ทภ.3 ส่วนหน้า แต่เพื่อให้การป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือเกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม และพิจารณาใช้มาตรการที่ครอบคลุม จึงกำหนดแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยึดถือปฏิบัติ ดังนี้

ให้ควบคุมดูแลการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ บูรณาการความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน เพื่อดำเนินการระบบป่าเปียกในพื้นที่วิกฤตที่เกิดไฟป่าซ้ำซาก ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง ให้ กกล.รส.จว.ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันอย่างต่อเนื่อง และให้การสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ แก่ กอ.รมน.จังหวัด และ ศอ.ปกป.จว.เมื่อได้รับการประสานตามความเหมาะสม บังคับใช้กฎหมายต่อผู้ลักลอบเผาป่า และบุกรุกป่าเพื่อขยายพื้นที่ทำกินอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง (พิจารณาจากค่าจากจุดความร้อนในห้วงตั้งแต่ 1 ก.พ. – 27 เม.ย. 41,545 จุด พบว่าเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ 39,961 จุด คิดเป็นร้อยละ 96 แสดงว่า ยังคงมีการลักลอบเผาป่าเพื่อจุดมุ่งหมายหาของป่า ล่าสัตว์ และขยายพื้นที่ทำกินอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทั้งนี้การลักลอบเผาป่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน 9 จังหวัดภาคเหนือ ทั้ง 6.5 ล้านคน อย่างชัดเจน)

กอ.รมน.จังหวัด และ ศอ.ปกป.จว. จะจัดการประชุมในห้วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ เพื่อทบทวนการปฏิบัติ และพิจารณากำหนดมาตรการและแนวทางร่วมกันในการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกคันในปีต่อๆ ไป นับแต่นี้ควรบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มรูปแบบในทุกกรณีของกฎหมาย เป็นการบ่มเพาะให้คนรู้ว่าสิ่งใดต้องทำ สิ่งใดต้องไม่ทำ ถ้ามีคนเพียงส่วนน้อยทำให้คนส่วนใหญ่เดือดร้อน เช่น การเผาป่าในพื้นที่ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ของตนเอง (เป็นพื้นที่ป่าเขา) และบอกว่าเป็นเรื่องความถูกต้อง แต่การกระทำดังกล่าวทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน กรณีนี้มีความเห็นว่าหลักรัฐศาสตร์คงใช้ไม่ได้ในมิติการเผาป่า โดยให้ถือประกาศนี้เป็นแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาจุด Hotspots และหมอกควันไฟป่าอย่างยั่งยืน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image