อุทัยธานี ภัยแล้งยาวนาน กระทบผักสดขาดตลาด ราคาพุ่งสูงสุดในรอบหลายสิบปี

จังหวัดอุทัยธานี ภัยแล้งยาวนานกระทบผักสดขาดตลาด แม่ค้าเผยแพงที่สุดรอบหลายสิบปี ถั่วฝักยาวพุ่งกระฉูดกิโลกรัมละ 30 – 40 เป็น 120 ขณะที่มะนาวผลละ 5 – 8 บาท ส่วนผักชีต้นหอมราคาแพงลิ่วเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท

เมื่อวันที่ 29 เมษายน เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ยังคงความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกผักสดต้องลดพื้นที่การเพาะปลูก ส่งผลให้มีปริมาณผักสดชนิดต่างๆเข้าสู่ตลาดน้อยลง ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้ผักสดหลายชนิดที่เป็นความต้องการราคาขยับสูงขึ้น จากการสำรวจผักสดในตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี พบว่าผักสดหลายชนิด โดยเฉพาะถั่วฝักยาว ต้นหอม ผักชี และพริกสด ขยับราคาแพงขึ้นหลานเท่าตัว

โดยแม่ค้าในตลาดเทศบาลเมืองอุทัยธานี กล่าวว่า หลังจากที่อากาศร้อนจัดและมีสภาพความแห้งแล้งลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ผักสดหลายชนิดได้รับผลกระทบ ไม่ออกผลผลิต บางอย่างก็ได้รับความเสียหายจากภาวะดังดังกล่าว โดยเฉพาะถั่วฝักยาวที่ขยับราคาสูงขึ้นอย่างมากจากปกติราคากิโลกรัมละไม่เกิน 30 – 40 บาท ขยับราคาแพงขึ้นเป็นกิโลกรัม 120 – 150 บาท ทำให้แม่ค้าไม่กล้าหารับซื้อมาวางขายจำนวนมากๆเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้าที่ได้รับผลกระทบคือร้านส้มตำที่ต้องใช้ถั่วฝักยาวเป็นวัตถุดิบหลักไม่กล้าซื้อไปปรุงส้มตำขายเพราะราคาแพงมาก

นอกจากนี้ ผักสดอีกหลายชนิดก็ปรับราคาขึ้นสูงตามไปด้วย เช่น มะระ จากกิโลกรัมละ 30 บาท เป็นกิโลกรัมละ 60 บาท พริกสดเขียวจากกิโลกรัมละ 50 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท พริกสดแดงจากกิโลกรัมละ 100 บาท ขึ้นเป็นกิโกรัมละ 150 บาท ขึ้นช่ายกิโลกรัมละ 100 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัม 150 บาท และผักชี ต้นหอม จากกิโลกรัมละ 100 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัม 200 บาท ส่วนมะนาวขึ้นเป็นลูกละ 5 – 8 บาท แล้ว ซึ่งหลังจากราคาผักแพงขึ้น ผู้บริโภคต้องเลือกซื้อผักที่มีความต้องการแต่ละชนิดให้น้อยลงเท่าที่จำเป็น อีกด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image