เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 นายทวีศักดิ์ ศรีทองกิติกูล ประธานมูลนิธิปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนสนับสนุนแนวคิดของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในอดีตเป็นนักศึกษารุ่นน้องในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจากประกาศส่งผู้สมัครลงแข่งขันในสนามเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่นในระดับจังหวัด เพื่อให้คนท้องถิ่นมีโอกาสผลักดันนโยบายการกระจายอำนาจ รวมทั้งงบประมาณ การบริหารงานบุคคลให้มีความชัดเจนมากขึ้น แต่พรรคควรสรรหาบุคลากรในท้องถิ่นที่มีคุณภาพเข้าไปเสริม คาดว่าอีกไม่นานจะมีการเลือกตั้งใหม่ทั่วประเทศ
“ปัจจุบันการทำงานการเมืองทุกระดับมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเป็นปกติ แต่ไม่ได้นำไปสู่ความรุนแรง เชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่คงไม่ทำให้มีความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น จากการตั้งข้อสังเกตของบางฝ่าย เนื่องจากอาจมีความหวั่นไหวจากกระแสความนิยมของพรรคที่เพิ่งก่อตั้งไม่นาน ดังนั้นหากพรรคอนาคตใหม่รู้จุดอ่อนในการบริหารท้องถิ่นปัจจุบัน และหาแนวทางจากกระบวนการการมีส่วนร่วม เพื่อนำปัญหาไปแก้ไขด้วยการนำเสนอในระดับนโยบายให้แก้ไขได้จริง จะเกิดประโยชน์ในการพัฒนารากฐานของระบอบประชาธิปไตยให้มีความเข้มแข็ง ทำให้ประเทศก้าวหน้าเหมือนหลายประเทศจะมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพของการเมืองท้องถิ่นให้มีอิสระ ด้วยการลดอำนาจและงบประมาณของหน่วยงานส่วนกลาง ขณะที่แนวทางกระจายอำนาจของไทยตั้งแต่ปี 2540 ยังล้าหลัง” นายทวีศักดิ์กล่าว และว่า
ที่ผ่านมา นโยบายของพรรคอนาคตใหม่เคยประกาศไว้ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ในภาพรวมเรื่องการกระจายอำนาจถือว่าน่าพอใจ ขณะที่ในอดีตมีหลายพรรคการเมืองเคยประกาศหลายครั้ง แต่ยังไม่มีพรรคการเมืองใดทำได้จริง หากพรรคอนาคตใหม่กำหนดวิธีการเพื่อนำนโยบายไปปฏิบัติได้ ทำให้เห็นผลงานเป็นรูปธรรม เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างแน่นอน และหลังจากพรรคอนาคตใหม่ประกาศให้ความสนใจสนามเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่น เชื่อว่าเร็วๆ นี้จะมีอีกหลายพรรคการเมืองประกาศเปิดตัว โดยเฉพาะสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และเมืองพัทยาท้องถิ่นในรูปแบบพิเศษที่มีงบประมาณจำนวนมาก ในขณะที่สนามเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล และ อบต. ขณะนี้ประชาชนทั่วประเทศตื่นตัวสูงมาก หาก กกต.จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
รายงานข่าวแจ้งว่า พรรคอนาคตใหม่ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก แจ้งผู้สนใจสมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นในนามพรรคอนาคตใหม่ โดยระบุว่า หลักการของพรรค 1.ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นแบบทั่วไป ทุกพื้นที่ ทุกระดับ แต่พรรคจะคัดเลือกส่งสมัครเฉพาะพื้นที่ยุทธศาสตร์ตามแนวทางของพรรค 2.ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่น หรือส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นครบทีม ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นแบบ “ยิงลูกโดด” คนเดียวหรือไม่กี่คน 3.เน้นส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นในพื้นที่ที่พรรคมี ส.ส. หรือมีคะแนนจากการเลือกตั้ง ส.ส.สูง หรือมีผู้สมัครที่มีศักยภาพ สะท้อนเอกลักษณ์ของพรรคอนาคตใหม่ 4.มีวิสัยทัศน์ในการบริหารท้องถิ่น และ 5.มีข้อเสนอนโยบายที่สอดคล้องกับแนวทางของพรรค 6.สนับสนุนสร้างการเมืองท้องถิ่นแบบใหม่ สนับสนุนสมาชิกที่มีคุณลักษณะสอดคล้องกับแนวทางพรรค มีความรู้ ความสามารถ
สำหรับวิธีการคัดเลือก 1.ให้สมาชิกพรรคที่ประสงค์สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นในพื้นที่ยุทธศาสตร์ตามแนวทางของพรรคอนาคตใหม่ จัดทำโครงการอันประกอบด้วย รายชื่อผู้สมัคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนต้องการสมัครรับเลือกตั้ง แนวนโยบายการพัฒนาท้องถิ่น วิสัยทัศน์ แผนการบริหารจัดการงบประมาณท้องถิ่น วิธีการหาเสียง เหตุผลและความจำเป็นที่พรรคต้องส่งลงสมัครในพื้นที่นั้นๆ 2.คณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาคัดเลือกโครงการข้อเสนอรอบแรก โดยพิจารณาความเห็นของคณะกรรมการสาขาพรรคหรือคณะทำงานจังหวัดประกอบ และเสนอโครงการที่ผ่านหลักเกณฑ์ให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นพิจารณาต่อไป
3.คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นพิจารณาคัดเลือก โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์ และการจัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครและประชันนโยบาย 4.คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นเสนอโครงการที่ผ่านการคัดเลือกให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาให้ความเห็นชอบ
“คณะกรรมการกลั่นกรอง” ประกอบด้วย รองหัวหน้าพรรคที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย 1 คน กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคใต้ อย่างละ 1 คน รวม 4 คน “คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น” ประกอบด้วย เลขาธิการพรรค รองเลขาธิการพรรค ผู้อำนวยการฝ่ายเครือข่าย ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย คณะกรรมการกลั่นกรอง และผู้ลงสมัครทุกคนต้องเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่
