เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ผช.ปลัดกระทรวงคมนาคม นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน เดินทางตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการตามมติ ครม.สัญจร จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 และ ครม.สัญจร จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 เริ่มตั้งแต่ท่าอากาศยานอุดรธานี, การก่อสร้างทางต่างระดับแยกอุดรธานี-หนองคาย, สนง.ขนส่ง จ.อุดรธานี แห่งที่ 1 และประชุมรับฟังรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ สนง.แขวงการทางอุดรธานีที่ 1
นายอาคมได้สั่งการให้หน่วยงานกลับไปตรวจสอบ เรียงลำดับโครงการที่มีความสำคัญ มีความจำเป็นเร่งด่วนมายังต้นสังกัด หากมีเงินเหลือจ่ายจะได้ดำเนินการทันที และขอให้ทุกหน่วยช่วยกันเข้าไปช่วยดูแลความสะดวกและปลอดภัย ตั้งแต่ถนน เกาะกลาง ฟุตปาธ รถสาธารณะ บริเวณหน้าโรงเรียนในช่วงเปิดภาคเรียน ในช่วงเช้าและเย็น รวมถึงทำให้ถนนหน้าโรงพยาบาลเป็นถนนปลอดภัย
นายอาคมเปิดเผยว่า มติ ครม.สัญจรที่เพชรบูรณ์และหนองคายได้มีข้อเสนอจากภาคเอกชนและจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องโครงสร้างถนน ในส่วนแผนงานหรือโครงการต่างๆ กระทรวงคมนาคมได้กำกับดูแลให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กำหนดไว้ในแผนทั้งหมด สำหรับโครงการเร่งด่วนนั้น บางส่วนได้จัดงบประมาณลงในปี 2562 ไม่ทันก็จัดลงไปไว้ในปี 2563 อาทิ ปัญหารถติดบริเวณทางแยก จ.หนองบัวลำภู ไป จ.สกลนคร ที่มีความจำเป็น แม้ภาคเอกชนไม่ได้เสนอ
“การตรวจติดตามทางแยกต่างระดับ แยกอุดรธานี-หนองคาย ซึ่งก็อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ทางระดับปกติ ทางยกระดับ และอุโมงค์ งานก็มีความก้าวหน้าไปด้วยดี แต่มีความจำเป็นต้องขยายเวลาออกไปถึง 20 ตุลาคม 2562 เพื่อชดเชยกับคำสั่งให้หยุดทำงานช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ซึ่งโครงข่ายถนนในภาคอีสานตอนบนถือว่ามีความครบถ้วนแล้ว จึงมีแผนจะขยายเป็น 4 เลนทั้งหมด อุดรธานีจะเป็นศูนย์กลางเชื่อมไปสู่ภาคเหนือตอนบน ขอนแก่นเป็นเมืองคู่แฝด เชื่อมไปสู่ภาคเหนือตอนล่าง”
นายอาคมกล่าวอีกว่า มีแผนงานโครงการได้บรรจุไว้แล้ว ทั้งขยายวงแหวนตะวันออกของอุดรธานี, ขยายถนนทางหลวง 22 และ 23 จากเงินกู้ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ขยายถนนลดความแออัดไปยังพระธาตุพนม, ถนนบางส่วนเลย-อุดรธานี เส้น 210 มีความเสียหายจะขยายเป็น 4 เลน, บึงกาฬ-นครพนม 80 กม. จัดให้เป็นช่วงๆ สำหรับ จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นจังหวัดใหม่ จะได้มีการศึกษาถนนใหม่ อุดรธานี-บึงกาฬ ระยะทาง 139 กม. เพื่อให้ระยะทางสั้นลง งบก่อสร้างจะต้องรอการออกแบบ
“ถนนเลียบแม่น้ำโขงจากหนองคายไปเลย ผ่านอำเภอศรีเชียงใหม่, ท่าบ่อ, ปากชม, สังคม, เชียงคาน แล้วเข้าตัว จ.เลย ถนนสายนี้มีความสวยงาม ถือเป็นถนนท่องเที่ยว มีความต้องการจะขยายถนนเป็น 4 ช่อง แต่เพราะไหล่ทางมีน้อย รถบรรทุกก็จำนวนไม่มาก ถนนท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้อง 4 เลนเสมอไป จึงจะขยายไหล่ทางให้มาตรฐานถนนกว้าง 7 เมตร และไหล่ทางอีก 5 เมตร ส่วนเลียบแม่น้ำโขงอีกด้านคือ จากหนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร ยาวไปจนถึงอุบลราชธานี ซึ่งยังขาดช่วงนครพนม-บึงกาฬ”
นายอาคมกล่าวอีกว่า แผนงานโครงการที่กำลังลงไว้ในปี 2563 หรือในปีต่อๆ ไปจะต้องมีการดำเนินการไม่หลุดไปไหน เพราะเป็นแผนงานในยุทธศาสตร์จังหวัด กลุ่มจังหวัด และยังเป็นการร่วมเสนอจากภาคเอกชน ซึ่งผ่านการจัดลำดับความสำคัญจังหวัด และความสัมพันธ์ของกลุ่มจังหวัด ทั้งนี้ ทุกเมืองทั่วประเทศมีปัญหาการจราจรติดขัดในเมือง ทุกเมืองต้องการทางเลี่ยงเมือง หรือวงแหวน จึงต้องมาดูว่าตรงไหนการจราจรถึงขั้นวิกฤต
