กรมประมงส่งเรือแอร์โบ๊ทเพิ่มขีดความสามารถ ป้องกันการไล่ล่าจระเข้ในบึงบอระเพ็ด หลังน้ำในบึงแห้งจนเข้าสู่ภาวะวิกฤติเข้าถึงบ้านเรือประมงผิดกฎหมายได้ทันท่วงที
วันที่ 13 พฤษภาคม นายวิวัฒน์ ปรารมถ์ ประมงจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า หลังพบว่าขณะนี้ปริมาณน้ำในบึงบอระเพ็ดลดลงต่อเนื่องจนเหลือประมาณ 13 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่ำว่าจุดต่ำสุดหรือจุดวิกฤตไปแล้วกว่า 1 เมตร และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องขนาดต้องผันน้ำจากแม่น้ำน่าน ลงคลองระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร (กม.) วันละกว่า 300,000 ลบ.ม. เพื่อเติมน้ำในบึงรักษาพ่อ แม่ พันธุ์ปลาไม่ให้ได้รับผลกระทบไปมากกว่านี้ แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จตามประสงค์ เนื่องจากมีปัจจัยแวดล้อมโดยเฉพาะการสูบน้ำไปทำนาจำนวนมากนั้น ล่าสุด กรมประมงได้ส่งเรือแอร์โบ๊ทมาประจำการใช้ลาดตระเวนในบึงบอระเพ็ด เนื่องจากขณะนี้น้ำในบึงลดลงเรือตรวจการณ์ไม่สามารถแล่นได้ หรือแล่นได้ก็ต้องไปตามร่องน้ำลึกจึงไม่สามารถไล่จับ หรือตรวจตราขบวนการหาปลาด้วยวิธีการผิดกฎหมายได้ทันท่วงที เพราะว่าน้ำที่ลดลงแหล่งอาศัยของปลาได้เคลื่อนย้ายมาตามแห่งน้ำลึกที่เหลือน้อยลง ทำให้ประมงพื้นบ้านอาศัยช่วงน้ำแห้งหาปลาผิดกฎหมาย เช่น ใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย หรือ ช็อตปลา เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมได้ทันท่วงที
“สำคัญที่สุดคือ กลัวว่าจะมีชาวบ้านมาแอบลักลอบจับจระเข้ จำนวน 23 ตัว ซึ่งกรมประมงฝังชิปปล่อยไว้ในบึงบอระเพ็ด เพื่อให้อยู่แบบธรรมชาติดั้งเดิมจะได้ขยายพันธุ์ จึงจำเป็นต้องนำแอร์โบ๊ทที่มีขีดความสามารถ ประสิทธิภาพสูงในการทำความเร็วไล่จับเรือหางยาว เรือหาปลา เรือช็อต เข้าไปในพื้นที่ที่มีน้ำตื้นได้เป็นอย่างดี เพราะว่าเรือดังกล่าวสามารถแล่นได้ทั้งสภาพน้ำลึก น้ำตื้น และบนบก สามารถวิ่งผ่านเกาะที่น้ำแห้งไปยังเรือประมงได้ทันที และยังวิ่งบนพื้นที่แห้งได้ด้วยระบบเรดาร์ คอนโทรลด้วยเครื่องมือสื่อสารไร้สาย ซุ่มในป่าหรือทุ่งบัวหลวง แล่นโดยไม่ต้องใช้เสียงสามารถบุกจับเรือที่เข้ามาในจุดห่วงห้ามได้ทันที นับว่าเป็นความห่วงใยของกรมประมง ที่จะรักษาจระเข้น้ำจืดในบึงบอระเพ็ด และเฝ้าระวังรักษาพันธุ์ปลา จึงส่งเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมาประจำการในบึงบอระเพ็ด” ประมงจังหวัดฯ กล่าวและว่า ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของเรือแอร์โบ๊ทที่เราได้ใช้คือการลาดตระเวนตรวจสามารถเข้าไปในพื้นที่ยากๆ เช่น ในพื้นที่ที่มีกอผักตบชวา กอบัว หรือที่แห้งๆ เพราะเรือปกติทั่วไปไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่นั้นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประมงจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าหน้าที่ ได้จัดกำลังชุดลาดตระเวนจำนวน 21 ชุด เพื่อนำเรือแอร์โบ๊ทออกลาดตระเวนตรวจประมงพื้นบ้านที่เข้ามาจับปลา ตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจจับ เพราะว่าน้ำในบึงบอระเพ็ดขณะนี้ลดลงต่อเนื่องเหลือประมาณ 1 ใน 3 เท่านั้น ทำให้ปลาหนีน้ำแห้งมาอยู่รวมกันบริเวณจุดน้ำลึก ทำให้ชาวบ้านสามารถจับปลาได้ง่าย เช่น ปลานิล ชาวบ้านสามารถจับได้มากกว่าปกติ 2-3 เท่า หรือประมาณวันละ 2-3 ร้อยกิโลกรัม แต่ขายได้เพียงกิโลกรัมละ 25 บาทเท่านั้น และบางร้านที่เคยรับซื้อปลา ประกาศหยุดรับซื้อปลานิลจากชาวประมงแล้ว เพราะว่าปลามีขนาดใหญ่และปริมาณมากจนล้นตลาด
