เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม แหล่งข่าวชาวสวนผลไม้รายหนึ่งใน ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ทุเรียนพันธุ์หลงลับแล หลินลับแล และพันธุ์หมอนทอง มีราคาสูง เนื่องจากเป็นช่วงต้นฤดูกาล โดยที่หลงลับแลมีราคากิโลกรัมละ 350 บาท ส่วนหลินลับแลราคากิโลกรัมละ 450 บาท และหมอนทองราคากิโลกรัมละ 110 บาท จึงตกเป็นเป้าของกลุ่มมิจฉาชีพในพื้นที่บางรายที่ฉวยโอกาสราคาทุเรียนแพงออกขโมยไปขายให้กับพ่อค้าในตลาดในพื้นที่ อ.ลับแล, ตลาดเมืองอุตรดิตถ์ ตลอดจนลาดริมถนนสาย 11 หรืออุตรดิตถ์-เด่นชัย-พิษณุโลก
“การขโมยทุเรียนไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่จะเกิดเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะช่วงที่ราคาทุเรียนแพงมากๆ ชาวสวนก็รู้และทราบเรื่องนี้ดี บางปีก็สามารถจับคนขโมยทุเรียนได้ บางปีก็จับไม่ได้ จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาคอยสอดส่องดูแลก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะสวนอยู่ในเขาในห้วยลึก เจ้าของสวนจึงต้องเฝ้าระวังกันเองด้วยการนอนเฝ้าทั้งกลางวันและกลางคืน บางรายต้องเสียเงินจ้างคนอื่นไปเฝ้าแทน เพราะหากไม่นอนเฝ้าก็จะตกเป็นเป้าของการขโมยของกลุ่มมิจฉาชีพอย่างแน่นอน
“เหตุที่ต้องนอนเฝ้าทุเรียนเพราะกว่าจะเก็บเกี่ยวมาจำหน่ายเป็นรายได้เลี้ยงชีพตลอดทั้งปี ต้องคอยดูแลทะนุถนอมยิ่งกว่าลูกในไส้เสียอีก ตั้งแต่ตัดหญ้า ตัดกิ่ง แต่งช่อดอก หน้าแล้งก็ขนน้ำจากพื้นราบไปรดบนภูเขา บางพื้นที่ดูแลไม่ทั่วถึงก็แห้งตายเพราะภัยแล้ง แต่พอสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้กลับต้องมาถูกขโมยอีก” แหล่งข่าวกล่าว
