เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ โดยได้รับแจ้งว่ามีครอบครัวยากจนลูกชาย 2 ขวบเศษป่วยเป็นโรคทางสมอง ขณะที่พ่อตกงาน และมีโรคประจำตัว ทำให้ไม่สามารถทำงานหนักได้ โดยมีเพียงผู้เป็นแม่ทำงานเป็นลูกจ้างร้านรับถ่ายเอกสาร พิมพ์งาน หาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียวเท่านั้น ภายหลังได้รับแจ้งผู้สื่อข่าว ‘มติชน’ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 122/1 ม.3 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง พบกับนายชนินทร อั้นซ้าย อายุ 50 ปี ซึ่งอยู่บ้านดูแลลูกชาย 2 คน เพียงลำพัง เนื่องจากภรรยาไปทำงาน ลูกชายคนโตคือ ด.ช.อลงกรณ์ อั้นซ้าย อายุ 9 ปี และ ด.ช.ธีรดลย์ อั้นซ้าย อายุ 2 ปี 9 เดือน และกำลังป่วยเป็นโรคเส้นประสาททางสมอง การตอบสนองช้าว่าปกติ พัฒนาการไปตรงตามอายุ แขนขาลีบ ประสาทตามีปัญหา ตาทั้งสองข้างไม่สามารถโฟกัสภาพได้ ต้องนอนอยู่กับที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป แถมมีพี่ชายอีกหนึ่งคนกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.3 ขณะที่พ่อตกงาน มีโรคประจำตัว ทำงานหนักไม่ได้
นายชนินทร อั้นซ้าย หรือ ‘ทร’ เล่าว่า สำหรับด.ช.ธีรดลย์ อั้นซ้าย อายุ 2 ปี 9 เดือน และกำลังป่วยเป็นโรคเส้นประสาททางสมอง ขณะคลอดบุตรชาย ภรรยาถูกเจาะน้ำคล่ำและคลอดน้องธีเวลาประมาณ 19.00น. ทุ่ม ของวันเดียวกัน พบน้ำหนักตัวดีมาก 3.8 กิโลกรัม (กก.) จากนั้นไม่นานแพทย์ได้พาน้องธีไปยังห้อง ไอ.ซี.ยู เนื่องจากน้องขาดออกซิเจนไป 15 นาที ทำให้ต้องอยู่ในตู้อบเด็กนานถึง 18 วัน ซึ่งตนก็ไม่ทราบผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเด็กจากอาการขาดออกซิเจน ต่อมาทางรพ.ตรังก็นำเอกสารเกี่ยวกับการรักษามาให้เซ็น ก่อนอนุญาตให้นำน้องกลับบ้านได้ กระทั่ง 1 สัปดาห์ต่อมา น้องเกิดอาการชักกระตุกอย่างรุนแรงและมีอาการดังกล่าวในทุกวัน และนำน้องไปตรวจอาการยังรพ.ตรัง จนได้รับการแจ้งผลจากแพทย์ว่าลูกชายเป็นโรคทางสมอง ซึ่งเป็นผลกระทบจากการขาดออกซิเจนขณะคลอด
“ไม่คิดว่ามันจะเกิดความผิดพลาดแบบนี้ขึ้น ทำให้ลูกชายคนเล็กได้รับเคราะห์แบบหาคนรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งครอบครัวและเครือญาติ ไม่เคยมีใครมีประวัติใครเป็นโรคนี้มาก่อน แต่เคราะห์กรรมมาตกที่ลูกชายเลือก รู้สึกเสียใจ คับแค้นใจเป็นอย่างมาก แต่ละวันภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลลูกชายสูงมาก เพราะลูกกินอาหารจำกัดเฉพาะเด็กป่วยโรคนี้เท่านั้น ส่วนยาแต่ละชนิดราคาค่อนข้างสูง ของใช้เด็กอ่อน อีกทั้ง ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรพ.ตรังและม.อ.สงขลา เดือนละ 1-2 ครั้ง ซึ่งถือว่าสาหัสมากสำหรับครอบครัวตนเองในขณะนี้ เพราะมีรายได้ทางเดียวคือจากภรรยาที่ทำงานเป็นลูกจ้างร้านถ่ายเอกสาร และพิมพ์งานเท่านั้น” นายชนินทร กล่าว
นายชนินทร กล่าวว่า แตนรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจากขณะนี้ห้องที่น้องธี ลูกชายตนอยู่ ซึ่งเป็นเดิมเป็นฉุ้งฉางเก็บข้าวหลังเก่าของพ่อแม่ ตอนนี้มีสภาพทรุดโทรมเต็มที่ เป็นไม้ที่มีปลวกกิน พอฝนตกก็สาดเข้ามาในห้อง ไร ฝุ่น ก็เยอะ น้องธี ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจบ่อยมากต้องใช้ยาพ่นเป็นประจำ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ตนเองก็อยากจะปรับปรุงห้องให้ลูกใหม่ ให้เขาปลอดภัยมากกว่านี้ ลำพังตนเองก็ไม่ได้ทำงานทำการ ช่วยเหลือภรรยาดูแลลูกเอง 2 คน เพราะป่วยเป็นโรคหัวใจ หากแลกกันได้ตนเองก็อยากจะให้ลูกหายจากโรคนี้ ซึ่งแพทย์ไม่ยืนยันว่าจะสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่ ได้แต่ภาวนา หากบุญยังมี ขอให้ช่วยลูกชายของตนด้วย จะให้แลกกํบอะไรก็ได้ ทั้งนี้ ชะตากรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตน บางทีก็คิดท้อบ้าง แต่ก็ไม่เคยคิดทิ้งลูก ยังคงรักและตั้งใจจะดูแลเขาไปตลอด แม้เขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม เขาก็คือลูกซึ่งเป็นที่รักของพ่อแม่อยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใดที่ต้องการช่วยเหลือก็สามารถส่งผ่านทางบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา สิริบรรณซ้อบปิ้งเซ็นเตอร์ (ตรัง) เลขที่บัญชี 895-241100-4 นายชนินทร อั้นซ้าย
