ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 19.50 น.วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งเหตุระเบิด บริเวณ ป้อมจุดตรวจสะเตง และจุดตรวจ นปพ. ข้างแฟลตตำรวจ ในเขตพื้นที่ อ.เมืองยะลา หลังรับแจ้ง พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อม พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ศรศึก-ศรชัย ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา รุดเข้าตรวจสอบ
โดยเบื้องต้นจุดเกิดเหตุ ประกอบด้วย จุดตรวจสะเตง, จุดตรวจร่วมแฟลต นปพ. แฟลต ตร.ลำใหม่, ชคต. สิมิหลัน หมู่ที่ 3 บ้านบราแง ตำบลกรงปีนัง จ.ยะลาไม่มีผู้บาดเจ็บ, บ้านคลองน้ำขุ่น อ.บันนังสตา จ.ยะลา (จุดที่เคยเกิดเหตุเผารถทัวร์) ที่ผ่านมา, แถวบาโงยชิแน ยิง M 79 ,มีเจ้าหน้าที่ถูกสะเก็ตระเบิดที่ขาได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อ ภายหลังคือ อาสาสมัครทหารพราน สมชาติ พนุมรัมย์ สังกัดกรมทหารพรานที่ 47 
สำหรับที่ป้อมจุดตรวจสะเตง บ.นิบงบารู หมู่ที่ 7 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่พบร่องรอยของระเบิดแสวงเครื่อง ชนิดไปป์บอมบ์ (ท่อพีวีซี) สีเขียว แบบกระเดื่อง ขนาดเล็ก ตกข้างป้อมจุดตรวจสะเตง แรงระเบิดทำให้พื้นถนนได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย ห่างกัน จุดที่ 1 บริเวณเส้นทางขาออกตัวเมืองยะลา
ที่จุดตรวจ นปพ.ร่วม หน้าแฟลตตำรวจ เป็นระเบิดชนิดไปป์บอมบ์เช่นกัน แรงระเบิดทำให้ตาข่ายที่อยู่ด้านหลังป้อมขาด ได้รับความเสียหาย มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หูอื้อ 3 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ทหาร2นาย และเจ้าหน้าที่ 1 นาย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อภายหลัง คือ อาสาสมัครทหารพราน สมชาติ พนุมรัมย์ สังกัดกรมทหารพรานที่ 47
จากการสอบสวนทราบว่า คนร้าย ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน เข้ามาก่อนขว้างระเบิดแสวงเครื่อง (ไปป์บอมบ์) ใส่จุดตรวจสะเตงนอก และ ป้อมจุดตรวจ นปพ. ร่วม ที่หน้าเฟลตตำรวจ ในเวลาไล่เลี่ยกัน จากนั้นห่างกันไม่เกิน 5 นาที เกิดระเบิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย หูอื้อ 3 นาย
จากการตรวจระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายใช้ เป็นระเบิดแบบขว้างไปป์บอมบ์ ขนาดเล็ก มีสะเก็ดระเบิดเป็นลูกปราย คาดคนร้ายหวังสร้างความปั่นป่วน สร้างสถานการณ์ก่อเหตุจุดตรวจหวังทำร้ายเจ้าหน้าที่
หลังเกิดเหตุคนร้ายอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดประจำป้อมจุดตรวจ เพื่อติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
