โคราชเปิดเทอมวันแรกจราจรติดขัด เทศบาลจับมือตำรวจใช้รถบัสชานต่ำ 70 ที่นั่งรับส่งนักเรียนฟรี

เมื่อเวลา 07.0 น. วันที่ 16 พ.ค. บรรยากาศเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลายพื้นที่เป็นไปอย่างคึกคักโดยเฉพาะบริเวณทางเข้าสถานศึกษายอดนิยม ริม ถนนมิตรภาพ สี่แยกตลาดประปา ไปจนถึงบริเวณสามแยกถนนสุรนารายณ์เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ถือเป็นสถานศึกษาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ 4 แห่ง คือ โรงเรียนเมืองนครราชสีมา, วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา, โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา และโรงเรียนสุรนารี มีจำนวนนักเรียน นักศึกษา รวมกันกว่า 2 หมื่นคน บรรดาผู้ปกครองขับรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เดินทางมาส่งนักเรียนกันจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นอนุบาล จะมีผู้ปกครองมาส่งกันพร้อมหน้า เนื่องจากยังไม่คุ้นชินกับการแยกจากผู้ปกครองมาเข้าเรียนกับเพื่อนๆ ส่งผลให้ถนนมิตรภาพการจราจรตัดขัดยาวกว่า 2.5 กม.

เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมือง ได้กระจายกำลังประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ขับขี่ยานพาหนะ จอดในจุดที่กำหนดไว้ และห้ามจอดในลักษณะกีดขวาง ใช้เวลาน้อยที่สุด เพื่อระบายปริมาณยานพาหนะที่คับคั่งนอกจากนี้ทางสถานศึกษาได้จัดเจ้าหน้าที่มาคอยเป่านกหวีดอำนวยความสะดวกให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานเดินเข้าโรงเรียนอย่างปลอดภัย

พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ ผกก.สภ.เมือง นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ใช้รถบัสชานต่ำ สามารถรองรับผู้โดยสารทั้งนั่งและยืนรวม 70 คน มีชานชาลาขึ้นลงให้ความสะดวกสบายกับผู้โดยสารทุกเพศ ทุกวัย ออกแบบระบบปรับอากาศขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า จอดรับนักเรียน นักศึกษา บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถนำรถยนต์มาจอดบริเวณที่จอดรถของห้างฯ แล้วนำบุตรหลานขึ้นรถรางวิ่งไปบนถนนมิตรภาพ ส่งถึงโรงเรียนฟรี เป็นโครงการรถบัสเพื่อน้อง เป็นความร่วมมือระหว่าง นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศบาลนคร(ทน.)นครราชสีมา, ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ สภ.เมืองนครราชสีมา มุ่งแก้ปัญหาการจราจรบนถนนมิตรภาพ ในช่วงเวลาเร่งด่วน 07.00 -08.00 น. โดยเน้นถนนมิตรภาพที่บริเวณจุดตั้งของสถานศึกษา 4 แห่ง มีจำนวนนักเรียน นักศึกษา รวมกันกว่า 20,000 คน

โดยช่วงเช้าจะมีผู้ปกครองขับรถมาส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียนพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ถนนมิตรภาพบริเวณดังกล่าวเกิดการจราจรติดขัดถึงขั้นวิกฤตเป็นประจำ รวมทั้งได้เน้นย้ำในกรณีนักเรียนที่ใช้บริการรับ-ส่งรถตู้โรงเรียน ให้ทั้งพนักงานขับรถและครูพี่เลี้ยงประจำรถตรวจสอบนักเรียนให้ครบและตรวจดูภายในรถให้ถี่ถ้วนก่อนนำรถไปเก็บ เพื่อป้องกันเด็กตกหล่นและติดค้างในรถอาจทำให้เกิดความสูญเสียได้ ที่ผ่านมาสถานีตำรวจได้จัดโครงการอบรมให้ความรู้ เพื่อให้บุคลากรของสถานศึกษาสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างปลอดภัย

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image