อุตุฯ ประกาศเข้าฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ขณะที่โคราชยังวิกฤติ โดยน้ำ 5 เขื่อนใหญ่ 23 เขื่อนขนาดกลาง เหลือน้ำใช้การ 393 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 34 เท่านั้น ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก ขณะที่มี 9 อำเภอ 21 ตำบล 52 หมู่บ้าน ที่คาดว่าจะขาดแคลนน้ำ ส่วน 3 อำเภอ 4 ตำบล 35 หมู่บ้านที่ประกาศภัยแล้ง ได้เร่งช่วยเหลือแล้ว
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ภาพรวมมีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 อ่างฯ และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางอีก 23 อ่างฯ เหลืออยู่ที่ 455 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 37.44 และเป็นน้ำใช้การได้ 393 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ร้อยละ 34 เท่านั้น โดยอ่างเก็บน้ำลำตะคอง สภาพน้ำปัจจุบันคงเหลืออยู่ที่ 174 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 55.48 เป็นน้ำใช้การได้ 151.75 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 52 ส่วนอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำคงเหลือน้อยสุด อยู่ที่ 27 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือร้อยละ 17.96 เป็นน้ำใช้การได้ 27 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือร้อยละ 17.58
ขณะที่อ่างเก็บน้ำมูลบน มีปริมาณน้ำคงเหลือ 44 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 31.88 เป็นน้ำใช้การได้ 37ล้านลูกบาศก์เมตรหรือร้อยละ 28.32 ,อ่างเก็บน้ำลำแชะ มีปริมาณน้ำคงเหลือ 107 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 38.92 เป็นน้ำใช้การได้100 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 37.32 และอ่างเก็บน้ำลำนางรอง มีปริมาณน้ำคงเหลือ 37 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 30.79 เป็นน้ำใช้การได้ 33 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือร้อยละ 28.77 รวม 5 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาณน้ำคงเหลือ 354 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ร้อยละ 40 เป็นน้ำใช้การได้ 316 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 37.36 ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในพื้นที่ รวม 23 อ่างฯ มีปริมาณน้ำคงเหลืออยู่ที่ 101 ล้าลูกบาศก์เมตร หรือ ร้อยละ30.57 เป็นน้ำใช้การได้ 76 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 24.89
ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศการเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ.2562 แล้วในวันนี้ (20 พ.ค.) พร้อมระบุว่าช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม จะมีการกระจายของฝนไม่สม่ำเสมอและมีปริมาณฝนน้อย ส่งผลให้มีน้ำไม่เพียงพอสำหรับทำเกษตรในหลายพื้นที่โดยเฉพาะนอกเขตชลประทาน จึงควรใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน จะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง อาจทำให้มีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ จึงขอให้ประชาชนและเกษตรกรได้เตรียมรับมือไว้ด้วย
ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดนครราชสีมา ยังคงเหลือหมู่บ้านที่คาดว่าจะขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค รวม 9 อำเภอ 21 ตำบล 52 หมู่บ้าน ซึ่งจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ปี 2562 รวม 3 อำเภอ 4 ตำบล 35 หมู่บ้าน ในพื้นที่อำเภอสูงเนิน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอพระทองคำ ตามหลักเกณฑ์และระเบียบของกระทรวงการคลัง เพื่อนำเงินทดรองราชการ 20 ล้านบาท ออกมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ซึ่งหากประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถแจ้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และจังหวัด ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
