รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ว่าตัวแทนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนที่ดินที่ถูกอ้างว่าเป็นที่ดินของวัดอุทัยธาราม ในเขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านโดยรอบวัด และวัดนั้นกำลังประสบปัญหาความขัดแย้งอย่างหนัก เนื่องจากทางวัดได้ฟ้องขับไล่ชาวบ้านที่อาศัยออกจากที่ดินดังกล่าว โดยอ้างว่าชาวบ้านไม่ได้ทำสัญญาเช่ากับวัดอย่างถูกต้องรวมถึงไม่ได้มีการจ่ายค่าเช่าในอัตรา 10 บาทต่อตารางวา ต่อเดือน โดยทางวัดได้เรียกเก็บย้อนหลังในคราวเดียวเป็นเวลา 6 ปี ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าไม่สามารถที่จะชำระค่าเช่าได้ในคราวเดียว ซึ่งเป็นเงินจำนวนประมาณ 100,000 บาท โดยในขณะนี้ทางวัดได้ฟ้องขับไล่ชาวบ้านกว่า 1,000 ครัวเรือน หรือประมาณ 3,000 ราย ออกจากที่ดินของวัด ในขณะเดียวกันทางชาวบ้านเองก็ยืนยันที่จะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด
นายสุพัฒน์ ภัทรนิตย์ ชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า อยู่บนที่ดินผืนนี้มานานตั้งแต่บรรพบุรุษ และยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวนั้นไม่ใช่ที่ดินของวัด แต่ทางวัดอ้างว่ามีเอกสารสิทธิครอบครองในที่ดินทั้งหมดในเรื่องนี้ ยืนยันว่าทางชาวบ้านจะต่อสู้ ทั้งในเรื่องของคดีความรวมถึงเดินทางไปเรียกร้องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเดินทาง เข้าไปเรียกร้องความเป็นธรรมที่ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานในพื้นที่โดยยืนยันว่าไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย หรือแม้กระทั่งขอเอกสารสิทธิในที่ดินที่อยู่อาศัยเพียงแต่ขออาศัยในที่เดิมและไม่ต้องจ่ายค่าเช่าในอัตราที่สูง จนไม่มีความสามารถที่จะจ่ายได้เพราะชุมชนแถวนี้เป็นชุมชนหาเช้ากินค่ำ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
