ผู้รับเหมารายย่อยขอความเป็นธรรม หลังไม่ได้ค่าจ้างปิดงานก่อสร้าง ‘บ้านพักตุลาการ’ รวมกว่า 10 ล้าน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 พฤษภาคม ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ กลุ่มผู้รับเหมารายย่อยโครงการก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักข้าราชการตุลาการ บริเวณเชิงดอยสุเทพ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จำนวนกว่า 10 ราย เดินทางเข้าติดตามความคืบหน้ากรณีร้องเรียนให้ช่วยเหลือเรื่องทวงค่าจ้างรวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท จากบริษัท พี เอ็น เอส ไซน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญากับสำนักงานศาลยุติธรรม

นายตี๋ สัตย์จริง หนึ่งในผู้รับเหมารายย่อย กล่าวว่า มายื่นเรื่องขอให้ศูนย์ดำรงธรรมช่วยเหลือนานกว่า 6-7 เดือน แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ วันนี้จึงมาติดตามเรื่องและทวงคืนหนังสือที่ร้องเรียนไปเพื่อหารือกันอีกครั้งว่าจะหาช่องทางใดต่อไปในการเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากผลกระทบที่เกิดขึ้น พวกเรามีไม่ต่ำกว่า 30 ราย เงินค่าจ้างที่คงค้างมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เฉพาะตนเองวงเงิน 3 แสนกว่าบาท ทุกคนเดือดร้อนกันมาก เพราะต้องกู้หนี้มาลงทุนซื้ออุปกรณ์ในการก่อสร้างหลังคา เหล็กดัด มุ้งลวด บันไดหนีไฟ

“ผมไม่คิดเลยว่ามารับงานก่อสร้างให้ศาลแล้วจะถูกหลอกลวง หรือโกงเงิน ผมอยากฝากให้ทางศาลดูแลและช่วยไกล่เกลี่ยให้บริษัทคู่สัญญาคืนเงินให้ อาจจะเป็นการแบ่งจ่าย เราก็ยอมรับได้ แต่ขอให้จ่ายเงินให้พวกเราเท่านั้น” นายตี๋กล่าว

Advertisement

ขณะที่ น.ส.บุษบา กฤษวงศ์ ผู้รับเหมาอีกคน กล่าวว่า ตนเองต้องนำบ้านเข้าธนาคาร นำรถยนต์ไปค้ำประกันเงินกู้ออกมาปิดงานโครงการก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักข้าราชการตุลาการ เพราะคิดว่าเป็นหน่วยงานรัฐใหญ่ ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร แต่กลับถูกหลอกให้ทำงานจากบริษัทคู่สัญญา ซึ่ง ณ ปัจจุบันรับเงินงวดสุดท้ายกว่า 150 ล้านบาท ปิดงานไปแล้ว แต่ไม่ยอมจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมารายย่อย

“วันที่ทางศาลจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้บริษัทคู่สัญญา เราก็ไปรอว่าจะได้เงิน แต่ก็ไม่ได้ วันนั้นประธานศาลอุทธรณ์ลงมาพบและบอกให้ตัวแทนบริษัทรับปากว่าจะจ่ายเงินให้เรา แต่จนวันนี้เรายังไม่ได้เงินเลย เราอยากให้ท่านช่วยไกล่เกลี่ยให้เพราะการฟ้องร้องจะต้องใช้เวลานานมาก และเราไม่มีเงินต่อสู้ในชั้นศาล เราเป็นคนหาเช้ากินค่ำ เราขอแค่เงินของเราคืนเท่านั้น” น.ส.บุษบากล่าวทั้งน้ำตา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นกลุ่มผู้รับเหมารายย่อยทั้งหมดได้เดินทางเข้าไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องกฎหมายว่ามีช่องทางใดที่พอจะแก้ปัญหาเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ้าง

Advertisement

ทั้งนี้ ในส่วนของการย้ายที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักข้าราชการตุลาการ ไปก่อสร้างใหม้ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย โดยขอใช้ที่ดินจากกรมวิชาการเกษตร หลังคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมมีมติเห็นชอบให้ทำความตกลงและดำเนินการของบประมาณจากรัฐบาลมาจัดสร้างใหม่ แต่เรื่องดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้า รวมทั้งการดำเนินการกับสิ่งปลูกสร้างในแนวเขตป่าดั้งเดิมบริเวณเชิงดอยสุเทพ ว่าจะมีการรื้อถอนและเข้าฟื้นฟูป่าให้กลับมาสมบูรณ์ต่อไปอย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image