แม่เฒ่า88ปี สุดรันทด! โดนสวมสิทธิ์ขโมยที่ดินไปขาย นานร่วม 40 ปี (คลิป)

คุณยายวัย 88 ปี จ.ตรัง สุดรันทดใจสิ้นหวังกับเจ้าหน้าที่รัฐฯ เผยคนมีอำนาจไม่กล้าทำอะไร เพราะมีเงินมาอุด เชื่อทำเป็นขบวนการรวมหัวกับนายทุน โดนสวมเอกสารสิทธิ์ที่ดิน (ส.ค.1) จำนวน 2 ไร่ จู่ๆ ไปโผล่ออกเอกสารสิทธิถือครอง (น.ส.3 ก.) จำนวน 55 ไร่ อีกหมู่บ้าน ถึงวันนี้อธิบดีกรมที่ดินสั่งเจ้าหน้าที่ฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติยังประวิงเวลา กราบวิงวอนร้องขอเอกสารสิทธิ์คืนไว้ให้ลูกหลานตอนที่ยังมีชีวิต เป็นที่ดินผืนสุดท้ายที่ปลูกบ้านพักอาศัย

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้าน ยายหนอ เบ็ญฤทธิ์ (หมวกเทพ) อายุ 88 ปี ชาวอ.กันตัง จ.ตรัง และ นายสุริยา เบ็ญฤทธิ์ อายุ 59 ปี สองแม่ลูกได้ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีโดนสวมสิทธิ์ขโมยที่ดินไปขาย มานานร่วม 40 ปี เดิมมีที่ดินถือครองสิทธิ (ส.ค.1) เลขที่ 44 ในพื้นที่ ม.4 ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง จำนวน 2 ไร่ หลังจากนั้นไปขอออกโฉนดที่ดินกับเจ้าพนักงานที่ดิน สาขากันตัง จ.ตรัง แต่เจ้าหน้าที่ฯ แจ้งว่า ส.ค.1 ฉบับดังกล่าว มีการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1759 ในพื้นที่ ม.5 ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง มีชื่อ นายการุณย์ ผลศิริ เป็นผู้ถือครองสิทธิครอบครอง มีเนื้อที่ 55 ไร่ – งาน – 90 ตารางวา ปัจจุบัน นายการุณย์ ได้ขายให้กับ นางกัลยา วศินวงศ์ เป็นผู้ถือสิทธิครอบครอง โดยที่เจ้าของที่ดินเดิมไม่ทราบเรื่อง จนเรื่องมาแดงขึ้นในภายหลังนั้น

Advertisement

นายสุริยา เผยว่า เรื่องนี้ตามที่ตนและพวกได้ร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมที่ดินแล้วนั้น กรมฯได้แจ้งผลการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1759 ในพื้นที่ ม.5 ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง เนื้อที่ 55 ไร่ – งาน – 90 ตารางวา ออกโดยอาศัยหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 44 ในพื้นที่ตำบล อำเภอ จังหวัดเดียวกัน เนื้อที่ จำนวน 2 ไร่ แต่ผลการพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ออก (น.ส.3ก.) แปลงดังกล่าวได้เนื้อที่ เกินกว่าหลักฐานเดิมจำนวนมากและมีหมู่ที่ตั้งแตกต่างกัน กรมที่ดินจึงแจ้งให้จังหวัดตรังตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติว่า (น.ส.3 ก.) แปลงนี้ ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร แต่จนถึงตอนนี้ที่ดินจังหวัดตรัง และที่ดินจังหวัดตรัง สาขากันตัง ล่วงเลยเวลามาเกือบ 2 ปีแล้ว ยังไม่สรุปเป็นที่ยุติแต่ดูเหมือนเป็นการซื้อเวลามากกว่า และอ้างเหตุผลสารพัดเพื่อประวิงเวลาออกไป

นายสุริยา-ยายหนอ

“หากบ้านเมืองยังอยู่แบบนี้ เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีความยุติธรรม ชาวบ้านลำบากแน่นอน สิ่งที่อยากฝากคือ อยากให้มีความยุติธรรมกับคนจนบ้างไม่ใช่ความยุติธรรมมีแต่คนมีอำนาจ ฝนตกให้ทั่วฟ้าไม่ใช่อยู่เป็นหย่อมๆ ที่ผ่านมาเห็นว่าคนทำผิดก็ให้ดำเนินการเป็นไปตามผิด เชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐฯ รวมหัวกับนายทุน ทำเป็นขบวนการ แต่ทำไมกับครอบครัวชาวบ้านคนจนต้องเป็นแบบนี้ ผู้มีอำนาจควรดูให้ทั่วถึง ตนเชื่อว่าความยุติธรรมยังมีแต่อีกนานกว่าจะได้เห็น ตนยังเชื่อมั่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ” นายสุริยา กล่าว

ขณะที่ ยายหนอ เจ้าของบ้านกล่าวด้วยความรู้สึกรันทดใจว่า เขาขโมยเอาไปขายหมดแล้วช่วงหลายปีก่อน เป็นมรดกตกทอดมาจากพ่อ แต่ทำอะไรไม่ได้แล้วเขาเอาที่ดินไปขายแล้วไม่รู้จะให้ใครช่วยที ซึ่งตอนนั้นมีเนื้อที่ดิน 2 ไร่ เขามาประชุมหลายครั้งแล้ว ผู้กับฯ ผู้การฯ ทหาร ตำรวจ นายอำเภอ เขามาเดินดูเฉยๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนมีอำนาจไม่กล้าทำอะไร เค้ามีเงินมาอุด (ปิดปาก) ยายเห็นข่าวภาคอื่นเจ้าหน้าที่เข้าไปตัดโค่น แผ้วถางที่ดินบุกรุก ขอวิงวอนเร่งเพิกถอน (น.ส.3 ก.) แล้วคืนสิทธิถือครองที่ดินและบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งลูกหลาน เหลน อยู่ทำมาหา 3 รุ่น กราบขอวิงวอนจะได้เห็นตอนที่ยังมีชีวิตเป็นที่ดินผืนสุดท้าย ห่วงลูกหลานจะถูกไล่ออกจากบ้าน และไม่มีที่อยู่

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ปัญหานี้ทางคณะกรรมการสอบสวนพิจารณาเพิกถอน หรือแก้ไขการออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน (น.ส.3 ก.) ของกลุ่มนายทุน จำนวน 11 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 608 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 5 ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง หลังคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐจังหวัดตรัง (กบร.) มีมติเสนอเรื่องร้องเรียนไปยังกรมที่ดิน เพิกถอน (น.ส.3 ก.) ออกจากสารบบที่ดิน เนื่องจากมติสรุปว่าออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย และยังพบที่ดินบางแปลงยังออก (น.ส.3 ก.) ทับที่ (ส.ค.1) ของชาวบ้านในพื้นที่เดียวกันทั้งบิน และบวม อีกหลายราย ข่าวคืบหน้าจะรายงานต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image