เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น จับกุม น.ส.อุษา เทศขันธ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 500/141 หมู่ 13 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้ในห้องเช่าไม่มีเลขที่ ชุมชนรถไฟ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) พร้อมของกลางเงิน 20,000 บาท ทองคำรูปพรรณ โทรศัพท์มือถือ พร้อมขยายผลจับกุม น.ส.วิไลวรรณ เม้านก พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ตู้เย็น และเงินสดกว่า 40,000 บาท ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์
พ.ต.อ.ภาคภูมิกล่าวว่า หลังจากตำรวจได้รับแจ้งจากนายเปรมสันต์ นิคมเรืองฤทธิ์ อายุ 40 ปี ชาว อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ว่าเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ได้ถือเงินกว่า 200,000 บาท ออกจากบ้านพัก เพื่อนำมาซื้อรถยนต์ในเขตตัวเมืองขอนแก่น แต่ยังไม่ได้ซื้อ พอถึงช่วงเวลากลางคืนได้ไปพบเพื่อนๆ และท่องเที่ยวตามสถานบันเทิงในเขตเมืองขอนแก่น ก่อนจะไปเจอหญิงสาวรายหนึ่งในสถานบันเทิง จากนั้นได้ไปเปิดห้องพักในอพาร์ตเมนต์รายวันแห่งหนึ่งในเขตตัวเมืองขอนแก่นเป็นที่นอนพัก จนกระทั่งรุ่งเช้าเงินได้หายไปทั้งหมด จึงได้แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ขโมยเงินไปมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
“หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย รวมถึงสืบสวนหาตัวหญิงสาวรายดังกล่าวจนพบตัว แต่หญิงสาวรายนั้นระบุว่าไม่เกี่ยวข้องกับเงินที่หายไป จึงทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลจนทราบว่า มีหญิงสาว 2 คนที่พักอาศัยในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน ได้ย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์ จึงสืบสวนหาตัวจนพบ น.ส.อุษา อยู่กับเพื่อนชาย 3 คน ในห้องเช่า จึงทำการตรวจค้นพบเงินสด ทองคำรูปพรรณและโทรศัพท์มือถือในตัวของ น.ส.อุษา จึงทำการควบคุมตัวมาทำการสอบสวน ซึ่ง น.ส.อุษา ให้การรับสารภาพว่า ทองคำรูปพรรณและโทรศัพท์มือถือนั้นได้มาจากการนำเงินที่ได้จากการขโมยมาจากห้องพักของนายเปรมสันต์ จากนั้น ได้แบ่งให้กับ น.ส.วิไลวรรณ เพื่อนสนิท คนละ 100,000 บาท จากนั้นจึงแยกย้ายกันหลบหนี”
พ.ต.อ.ภาคภูมิกล่าวอีกว่า ตำรวจสามารถจับกุมตัว น.ส.วิไลวรรณ ได้ที่บ้านพักในเขต อ.เขาสวนกวาง พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์และตู้เย็น โดยให้การรับสารภาพว่า ในคืนวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เห็นผู้เสียหายเข้าพักในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน โดยสังเกตว่าไม่ได้ล็อกประตู จึงพากันย่องเข้าห้องพักของผู้เสียหาย พบผู้เสียหายนอนหลับ และเห็นกระเป๋าเงินวางอยู่หัวเตียง โดยเมื่อเปิดดูพบเงินจำนวนมาก จึงขโมยและนำไปแบ่งกันคนละครึ่ง จากนั้นก็แยกย้ายกันหลบหนีจนถูกตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว
“คดีนี้มีผู้ต้องหาที่ก่อเหตุร่วมกันลักทรัพย์เพียง 2 คนคือ น.ส.อุษา และ น.ส.วิไลวรรณ ซึ่งเมื่อแบ่งเงินกันเรียบร้อยแล้วต่างคนต่างไปซื้อสิ่งของที่ตัวเองอยากได้ และใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เป็นสายเปย์ เที่ยวเตร่เลี้ยงกลุ่มเพื่อนๆ ขณะเดียวกันในการจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังคงจับกุมผู้ต้องหาชายได้อีก 3 คนภายในห้องของ น.ส.อุษา แต่ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักทรัพย์ แต่ตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง จึงถูกจับในข้อหาเสพยาเสพติด อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบสวนแล้วเสร็จจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”
