“บิ๊กอวบ”ชื่นชมตร.โคราชจับทันควัน 2คดี โจ๋ป่วนรพ.-ตื้บคู่กรณีคาไฟแดง ลั่นละเลยระงับเหตุในรพ.ต้องลงโทษ

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมพล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ ผกก.สภ.นครราชสีมา พ.ต.ต.อุกกฤษฏ์ แพงไธสง สว.สืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 8 คนที่ก่อเหตุรุมทำร้ายผู้อื่น บริเวณสี่แยกโคกไผ่ (พีกาซัด) ถ.ช้างเผือก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยผู้ก่อเหตุมีอายุระหว่าง 16-25 ปี ทราบชื่อภายในประกอบด้วย นายเฉลิมหรืออั๋น ทองเหลืองสุข อายุ 25 ปี นายอเนก หรือเขียว จ้าวค้างพลู อายุ 20 ปี นายสิรยศหรืออืด สมดี อายุ 19 ปี นายกิตติกูลหรือเฟิร์ส เนื่องกระโทก อายุ 17 ปี นายเกรท(นามสมมติ) อายุ 16 ปี นายตาล(นามสมมติ) อายุ 20 ปี นายแก๊ป(นามสมมติ) อายุ 17 ปี และนายสราวุฒิหรือข้น ชูจันอัด อายุ 25 ปี โดยทั้งหมดรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง
นายเฉลิมหรืออั๋น ทองเหลืองสุข ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปเที่ยวในตัวเมืองนครราชสีมา จากนั้นขับขี่มอเตอร์ไซค์เล่นไปตามถนนสายต่างๆเป็นกลุ่ม โดยจอดรถติดไฟแดงบริเวณแยกพีกาซัส พบรถของนายวชิรพงษ์ ผู้ขับขี่ มีเร่งเครื่องเสียงดังถึง 3 ครั้ง จึงเกิดความไม่พอใจ เหมือนเป็นการดูถูก ตนพร้อมเพื่อนซึ่งมีอาการเมา ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จึงลงมือทำร้ายผู้เสียหาย

นายวชิรพงษ์ สียงค์พะเนา อายุ 19 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า คืนวันเกิดเหตุ ตนไปเที่ยวกับเพื่อนหลังจากนั้นจะเดินทางกลับบ้าน กระทั่งมาติดแยกไฟแดง พบกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก ถามว่า”บ้านมึงอยู่ไหน” ก่อนใช้หมวกกันน็อกตีศีรษะเพื่อนที่นั่งข้างหลัง จากนั้นโดนรุมทำร้ายจนสลบคาถนน ส่วนเพื่อนวิ่งหลบหนี ก่อนกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวขับจยย.หลบหนีไปในความมืด ก่อนเพื่อนจะพาตนกลับบ้านไปพักพื้นเพื่อดูอาการ
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ขอชื่นชมการปฏิบัติงานของตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาที่สามารถติดตามจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนทั่วไป ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ มีคดีก่อเหตุภายในโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง อำเภอเมืองนครราชสีมาท้องที่เกิดเหตุ สามารถเข้าระงับเหตุได้ทันท่วงทีและจับกุมผู้กระทำผิดส่งดำเนินคดีไปแล้ว เป็นไปตามแผนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบนโยบายและแนวปฏิบัติให้สถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศมีการซักซ้อมและมีแผนระงับเหตุต่างๆไว้อย่างต่อเนื่อง ตนจึงมอบเงินรางวัลเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีผลงานทั้งสองสถานีนี้

“สนง.ตำรวจแห่งชาติ ได้มอบนโนบายและสั่งการให้ตำรวจทุกภาคและทุกสถานีทั่วประเทศได้มีการวางแผนซักซ้อมการเผชิญเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในสถานที่ราชการโดยเฉพาะโรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่หากสถานีตำรวจแห่งใดปล่อยปะละเลยไม่ปฏิบัติตามและถ้ามีเหตุเกิดขึ้นก็ไม่มีแผนรองรับหัวหน้าสถานีตำรวจและตำรวจที่เกี่ยวข้องก็จะถูกลงโทษทันที” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image