เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 นพ.ประเสริฐ มงคลศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นนายแพทย์ที่เปิดรับรักษาโรคด้วยการใช้น้ำมันกัญชาให้กลุ่มผู้ป่วย เปิดเผยว่า จากกระแสผู้ป่วยใช้น้ำมันกัญชาช่วยรักษาโรค ทำให้มีผู้ป่วยบางรายใช้น้ำมันกัญชาเกินขนาด จนได้รับอาการข้างเคียง ตลอดจนมีการนำไปส่งต่อและแบ่งปันกันใช้ในกลุ่มเพื่อนที่ป่วยเป็นโรค โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการใช้อย่างถูกต้องนั้น สำหรับตนไม่ได้เปิดรักษาที่คลินิก หรือที่บ้าน โดยหากจะขอใช้น้ำมันกัญชา ผู้ป่วยต้องเดินทางเข้ามารับการตรวจโรคและการวินิจฉัยว่าสามารถใช้น้ำมันกัญชาได้หรือไม่ และต้องใช้ในปริมาณเท่าใดและกลุ่มประเภทใด สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีการใช้น้ำมันกัญชาเกินขนาด และมีการส่งต่อแบ่งปันกันใช้พบว่าเป็นปัญหาและเป็นประเด็นที่ต้องแก้ไขและระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากพบมีการซื้อแล้วนำไปส่งต่อแบ่งปันกันใช้กันเอง
“ต่อไปนี้จะจำกัดจำนวนการซื้อ เนื่องจากที่ผ่านมาจะมีกลุ่มผู้ป่วยขอซื้อน้ำมันกัญชาเกินกว่า 1 ขวด เนื่องจากให้เหตุผลว่าเดินทางไกล ไม่สะดวกเดินทางมาทำการซื้ออย่างต่อเนื่องได้ แต่ปรากฏว่ามีการนำไปส่งต่อและแบ่งปันกันทดลองใช้กันเองในกลุ่มผู้ป่วย โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือการใช้อย่างถูกวิธี ต่อไปนี้จะจำหน่ายให้เฉพาะตัว ไม่มีการจำหน่ายให้เพิ่มอย่างเด็ดขาด ถือเป็นประสบการณ์ ที่ต้องดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงต่อไป เพราะได้รับทราบจากกลุ่มผู้ป่วยที่เดินทางมาพบว่า ได้ลองใช้จากเพื่อนที่เดินทางมาซื้อแล้วรู้สึกดี จึงเดินทางมาขอซื้อต่อ ทำให้ทราบว่ามีการแบ่งกันทดลองใช้กันก่อนตรวจรักษากับหมอโดยตรง ซึ่งต่อไปนี้ จะเข้มงวดมากขึ้น
ส่วนกรณีข่าว การหยดน้ำมันกัญชามากถึง 40 หยดนั้น จริงๆแล้วนั้นไม่ต้องเปรียบเทียบกับการหยดน้ำมันกัญชาถึง 40 หยด เพราะถ้าหากเรากินยาพาราแก้ปวดมากถึง 15 เม็ด เราต้องทำการล้างท้องเ จริงๆแล้วยาทุกๆชนิด หากกินเกินขนาด มันย่อมส่งผลเสียกับเราทุกชนิดเช่นกัน เพราะฉะนั้นย่อมมีขนาดและปริมาณของมันอยู่ จึงจำเป็นต้องใช้ตามที่แนะนำ” นพ.ประเสริฐ และกล่าว
จะแนะนำเสมอว่า ให้ทำการแตะที่ปลายนิ้ว หรือใช้เพียงครึ่งหยดก่อนโดยต่อไปนี้จะทำการเข้มงวดเพิ่มมากขึ้นจะไม่ให้เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 หยด เพราะป้องกันไม่ให้เกิดประเด็นดังกล่าวขึ้นอีก เพราะจากเดิมที่เคยให้มา 1 หยดนั้นก็ยังไม่พบปัญหาใด ในกลุ่มผู้ป่วย 100 คน 90% ยังพบว่าหยดน้ำมันกัญชา 1 หยดยังไม่รู้สึกอะไร แต่พอมีกรณีข่าวเช่นนี้เกิดขึ้น ทางเราก็ไม่สบายใจจึงมีการปรับเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนเพิ่มมากขึ้นอีก จึงให้ทำการเริ่มเพียงแค่ครึ่งหยดก่อนสักระยะหนึ่งประมาณ 3-4 วัน แล้วค่อยเริ่มใช้ 1 หยด หลักการคือ เริ่มน้อยๆเพิ่มช้าๆเพราะแต่ละคนมีการตอบสนองต่อร่างกายไม่เท่ากัน
โดยในส่วนที่มีการแจ้งเตือนในกลุ่มของโรคต้องห้าม อาทิ โรคหัวใจ โรคความดัน โรคไต โรคเอดส์ และโรคอัมพฤกษ์ ซึ่งอ้างว่าอาจทำให้อาการกำเริบได้นั้น นายแพทย์ประเสริฐ กล่าวว่า มันเป็นเพียงบางโรคเท่านั้น ไม่ได้ตรงกับที่มีการกล่าวอ้างมา ทั้งหมด ซึ่งตนก็จะดูว่าเป็นโรคอะไร อย่างเช่น กลุ่มโรคหัวใจตนก็จะดูว่า ใช้ฟอร์มาลีน อยู่กรณีนี้ก็ต้องระวัง เพื่อไม่ให้เลือดแข็งตัวซึ่งอันนี้ก็ต้องระวัง โดยตนเองนั้นก็จะถามลึกอยู่แล้ว และต่อไปนี้ก็จะมีการคุมเข้มในการจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมประเสริฐ กล่าว
