ร้อนจัดแล้งโหดกระทบ ‘แมงมัน’ หาย ราคาพุ่ง กก.ละ 2-3 พันบาท

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามตลาดสดในชุมชนทั่วไปของจังหวัดพะเยา จะพบว่าตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา เริ่มมีอาหารพื้นถิ่นหายากออกมาบ้างแล้ว คือ แมงมันคั่ว ซึ่งเป็นแมงมันตัวแม่ที่ถูกเด็ดปีกแล้วนำมาคั่วปรุงรสแล้วนำมาวางขายตามตลาดสดในชุมชน ลักษณะการขายมีทั้งใส่แก้วเล็กหรือวางกองขาย หากเป็นใส่แก้วขายแก้วละ 20 บาท วางกองขายกองละ 50 บาท ทั้งแก้วและกองจะมีจำนวนแมงมันระหว่าง 30-50 ตัว สนนน้ำหนักของแมงมันจะอยู่ที่ มก.ละ 20 บาทขึ้นไป หรือ กก.ละ 2,000 บาทขึ้นไป

นางชรีพร ยอดฟ้า ที่ตลาดสดชุมชนบ้านแม่ใส บริเวณหน้าวัดแม่ใส ต.แม่ใส อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา โดยปกติแล้วทุกเย็นในตลาดสดจะมีคนนำแมงมันคั่วมาวางแบ่งเป็นกองขาย กองละ 50 บาท แต่ละกองจะมีประมาณ 40-50 ตัว หรือบางครั้งก็มีไม่ถึง 50 ตัว หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว จะเป็นช่วงหลังสงกรานต์เป็นต้นมาจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปีเมื่อมีฝนตกชุก มักจะมีแมงมันออกมาจากหลุมและมาบินตอมไฟตอนกลางคืน จากนั้นผู้คนจะนิยมไปเก็บแมงมันที่มาตอมไฟไปคั่วเป็นอาหาร และนำมาขายสร้างรายได้เสริมกันบ้าง ยอมรับว่าปีนี้แมงมันราคาแพงมาก หากรวมน้ำหนัก 1 กก. จะมีราคา กก.ละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาทขึ้นไป ปีนี้ตนคาดว่าราคาอยู่ที่ กก.ละ ละ 2,000-3,000 บาท เพราะแมงมันมีน้อย ออกมาจากดินช้ากว่าทุกปี

“หากย้อนกลับไปที่ต้นทางคือแมงมันอยู่ในดิน หากไม่มีฝนตก ดินไม่อ่อนตัวแมงมันทั้งตัวแม่และตัวผู้จะพยายามโผล่ขึ้นมาจากรูในดินไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถขึ้นมาผสมพันธุ์กันได้ หรือหากฝนตกช้าเช่นปีนี้ ทำให้ช่วงเวลาของการผสมพันธุ์เหลือน้อยลง เพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ร้อนจัด แล้งมาก ฝนไม่ตก และตกช้า เหล่านี้กระทบทำให้แมงมันเหลือจำนวนน้อยลง ส่งผลให้ราคาแมงมันแพงขึ้นตามไปด้วย ดิฉันสังเกตได้ว่าประมาณ 5 ปีมาแล้ว แมงมันน้อยลงอย่างมาก เพราะอากาศแล้งติดต่อทุกปี แมงมันถูกขุดกินไม่หยุดเช่นกัน ทั้งอากาศที่แห้งแล้ง การขุดแมงมันกินอย่างไม่ระมัดระวัง จึงเป็นเหตุให้แมงมันหายากขึ้นทุกปี ดังนั้น ควรหาแนวทางอนุรักษ์แมงมันไว้เป็นแหล่งอาหารพื้นบ้านยอดนิยมกันต่อไป” นางชรีพรกล่าว

ด้านนางชิน ใจเย็น แกนนำฮักบ้านเกิดและปราชญ์ท้องถิ่นด้านสิ่งแวดล้อม อ.ปง จ.พะเยา กล่าวว่า ทุกปีในช่วงเดือนแปดเหนือ หรือพฤษภาคมของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาของการออกมาผสมพันธุ์ของแมงมัน โดยแมงมันตัวเมียที่มีสีแดงและตัวโต พร้อมกับแมงมันตัวผู้ที่มีสีออกเหลืองนวลตัวเล็กกว่าตัวเมีย พยายามโผล่ออกมาจากดินเพื่อผสมพันธุ์กัน จากนั้นตัวเมียก็จะกลับลงไปในดินเพื่อวางไข่ ให้ผู้คนได้ค้นหาและขุดนำไข่ไปเป็นอาหารในปีถัดไป เป็นเช่นนี้ทุกปี เนื่องจากทั้งไข่และตัวแมงมันคืออาหารพื้นถิ่นยอดนิยมของภาคเหนือ ทำให้ราคาแพงทั้งไข่และแมงมัน ฤดูกาลไข่แมงมันจะขายกันที่ กก.ละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เมื่อถึงฤดูตัวแมงมันราคาจะอยู่ที่ กก.ละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท

Advertisement

“เมื่อแมงมันเป็นอาหารพื้นถิ่นยอดนิยม ดังนั้น ต้องมีแนวทางการอนุรักษ์ไว้ ซึ่งทำแหล่งที่อยู่ให้แมงมันได้วางไข่และขยายพันธุ์ โดยกำหนดจุดหรือพื้นที่กลางป่า ในบริเวณบ้านที่มีต้นไม้ จากนั้นใช้หลอดไฟสีม่วงเปิดตอนกลางคืนล่อให้แมงมันออกมาทั้งตัวแม่และตัวผู้ในช่วงที่ผสมพันธุ์กัน จากนั้นก็ปล่อยให้แมงมันตัวแม่กลับลงดินไปวางไข่ หลีกเลี่ยงการจับแมงมันทั้งตัวและแม่และตัวผู้เพื่อให้ได้ขยายพันธุ์ต่อ เพียงเท่านั้นเราก็จะมีแมงมันได้ทานตลอดปีและตลอดไป” ปราชญ์ท้องถิ่นด้านสิ่งแวดล้อม อ.ปง กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image