ประชาชน 400 คน รวมตัวต่อต้านความรุนแรงหลังเหตุระเบิดตลาดนัด โฆษกเผยฝีมือกลุ่มสุดโต่ง จ้องก่อเหตุเดือนรอมฎอน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 พฤษภาคม พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เดินทางมาที่บริเวณตลาดนัดบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อแถลงข่าวและสรุปสถานการณ์รวมไปถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดด้วยรถ จยย.บอมบ์ บริเวณตลาดนัดบ่อทอง จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ได้ร่วมกิจกรรมรวมตัวของผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน และนักเรียน ซึ่งมีทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธและอิสลามในพื้นที่ ต.บ่อทอง กว่า 400 คน ออกมาถือป้ายประณามต่อต้านและเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในทุกรูปแบบ หลังจากเกิดเหตุลอบวางระเบิดบริเวณตลาดนัดบ่อทองแห่งนี้ โดยมีตัวแทนของทุกภาคส่วนออกมากล่าวแสดงจุดยืนในการต่อต้านความรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้กลุ่มคนร้ายยุติการก่อเหตุที่อาจจะส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์ของประชาชน
ขณะเดียวกัน ยังออกแถลงการณ์การรณรงค์รวมพลังต่อต้านความรุนแรง โดยมีรายละเอียด 3 ข้อ คือ 1.ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่างทุกกลุ่มหยุดการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในการสร้างความขัดแย้งในพื้นที่ 2.ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่างทุกกลุ่มหยุดทำร้าย เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และ 3.ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่างหยุดนำพื้นที่สาธารณะ เช่น ตลาด สถานที่ราชการต่างๆ มาเป็นพื้นที่ก่อเหตุความไม่สงบ
ขณะที่ พ.อ.ปราโมทย์แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และได้กำชับให้ จนท.เข้ามาช่วยเหลือจัดการผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สังคมรู้สึกเหมือนกัน ถือเป็นความพยายามของกลุ่มขบวนการสุดโต่งที่ได้รับมรดกบาปทางความคิด มุ่งก่อเหตุเพื่อสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์ในเดือนรอมฎอน เป็นโศกนาฏกรรมที่ส่งผลต่อความรู้สึกในวงกว้าง ซึ่งอาชญากรเหล่านี้นอกจากจะมีความผิดตามกฎหมายแล้ว ยังถือเป็นพฤติกรรมที่ได้ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงอีกด้วย ทั้งนี้ รัฐจะไม่ตอบโต้ด้วยมาตรการนอกกฎหมาย เพราะรัฐใช้มาตรการทางกฎหมายที่เข้มงวดในการดำเนินการกับผู้กระทำผิด
“วันนี้ประชาชนออกมาต่อต้านความรุนแรง จึงขอเชิญองค์กรสิทธิและองค์กรภาคประชาชนต่างๆ ออกมาปกป้องสิทธิประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต่อต้านพวกสุดโต่ง เพราะประชาชนในพื้นที่ต้องการให้ 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอมเป็น 10 วันที่สันติสุขและสงบสุข กอ.รมน.ยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีและจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เราจะใช้เวทีสภาสันติสุขตำบลเพื่อให้ประชาชนเรียกร้องความต้องการ เราจะรวบรวมความต้องการของประชาชนเสนอต่อรัฐบาล ไปสู่กระบวนการพูดคุยสันติสุข เพื่อทำให้พื้นที่เกิดความสันติสุขต่อไป
“ส่วนความคืบหน้าของคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดถือเป็นหลักฐานสำคัญ ยอมรับว่าตอนนี้รู้ตัวกลุ่มคนร้ายแล้ว เป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ และอาจเชื่อมโยงกับเหตุปะทะเมื่อวานที่ อ.ยะหา เพราะคนร้ายที่ถูกวิสามัญจากการปะทะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุระเบิดตลาดบ่อทอง ขอฝากว่า ถ้าเลือกที่จะท้าทายเอาชีวิตประชาชนเป็นเหยื่อ ถือว่าไม่ใช่การกระทำของลูกผู้ชาย ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะยังคงยึดมั่นตามแนวทางสันติวิธีภายใต้หลักกฎหมาย โดยจะเร่งรัดบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มก่อเหตุโดยเร็วที่สุด ควบคู่กับการเปิดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็น และความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมให้หนุนเสริมกระบวนการสร้างสันติสุขในพื้นที่ต่อไป”
ขณะที่บริเวณศูนย์ช่วยเหลือให้คำปรึกษาแก่ผู้ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตลาดนัดบ่อทอง เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาลงทะเบียนรับการเยียวยา ล่าสุด วันนี้มีผู้มาลงทะเบียนขอรับการเยียวยา ประกอบด้วย บ้านเสียหาย 12 หลัง รถยนต์เสียหาย 7 คัน รถ จยย.เสียหาย 1 คัน ผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คน