วันที่ 28 พฤษภาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชาวบ้านที่อาศัยตลอดแนวชายฝั่ง นับตั้งแต่หัวหาดแหลมอ่าวดินแดง มาจนถึงคลองสน บริเวณหมู่ที่ 5 บ้านหลังเขา ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง กำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนจากมรสุมที่พัดรุนแรงมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะสถานการณ์คลื่นลมล่าสุดที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงระยะนี้ ถึงแม้จะมีการก่อสร้างแนวกำแพงที่ทำด้วยไม้เพื่อปักเป็นเสาเข็ม ขนาดสูงประมาณ 1 เมตร แต่ก็มิอาจต้านทานแรงซัดสาดของคลื่นลมได้ จนเกิดความเสียหายไปบางส่วนแล้ว ทำให้บ้านเรือนริมชายหาด ประมาณ 25 หลังคาเรือน เสี่ยงต่อการที่จะถูกคลื่นลมซัดสาดจนพังไปหมด และไม่อาจถอยร่นไปไหนได้อีกแล้ว
นายเบบ หมาดหลี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านหลังเขา ตำบลเกาะลิบง กล่าวว่า สำหรับชายหาดบริเวณบ้านหลังเขานั้น จะเป็นจุดที่เจอมรสุมรุนแรงที่สุดบนเกาะลิบง และเคยมีการทำเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ หลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง นอกจากก่อสร้างแนวกำแพงที่ทำด้วยไม้ แต่ดำเนินการได้เพียงแค่ 300 เมตรเท่านั้น ขณะที่ตลอดแนวชายฝั่งแห่งนี้มีระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งวิธีการดังกล่าวไม่อาจต้านทานแรงซัดสาดของคลื่นลมได้ แม้ชาวบ้านจะเคยเสนอให้ก่อสร้างเป็นแนวกำแพงหิน เหมือนอย่างที่จังหวัดสตูล ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ผล แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป
นอกจากนั้น ยังทำให้แนวชายฝั่งบริเวณบ้านหลังเขา ถูกกัดเซาะหดหายเข้ามาเพิ่มขึ้น จนลึกประมาณ 20 เมตรแล้ว ซึ่งหากต้องเจอกับมรสุมที่มีแนวโน้มรุนแรงมากในปีนี้ เชื่อว่าแนวชายหาดก็คงจะหดหายไปเพิ่มอีก รวมทั้งอาจทำให้บ้านเรือนกว่า 20 หลัง หรือประมาณนับร้อยๆ ชีวิต ต้องพังไปเพราะแรงซัดสาดของคลื่นลม ซึ่งชาวบ้านก็สุดปัญญาที่จะหาทางแก้ปัญหาได้ นอกจากรอชะตากรรมไปวันๆ เท่านั้น และหากบ้านทั้งหลังต้องพังไป ก็ไม่รู้ว่าจะไปอาศัยอยู่ที่ไหน เพราะไม่เหลือผืนดินใดๆ อีกแล้ว ซึ่งทุกวันนี้แทบไม่กล้าหลับกล้านอนภายในบ้าน โดยเฉพาะในยามค่ำคืน เพราะเกรงจะถูกคลื่นลมซัดหายไปในท้องทะเล
