วันที่ 31 พฤษภาคม นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากออกประกาศแจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการกิจการห้องพักรายวันที่ไม่มีใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรงแรม 2547 มากกว่า 170 รายให้ยื่นคำขอใบอนุญาตที่ฝ่ายปกครอง อ.หัวหินภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2562 เมื่อพ้นกำหนดหากประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีโทษอาญาตามกฎหมาย
ล่าสุดมีผู้ประกอบการโรงแรมจำนวนมากเดินทางไปยื่นขออนุญาตจดแจ้งในลักษณะการเข้าพักรายวันไม่เกิน 4 ห้อง ผู้เข้าพักครั้งละไม่เกิน 20 รายในลักษณะโฮมสเตย์ เนื่องจากเชื่อว่าไม่มีเงื่อนไขยุ่งยากเหมือนยื่นขออนุญาต พ.ร.บ.โรงแรม จากนั้นเจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบว่าการยื่นจดแจ้ง เข้าเงื่อนไขเพื่อหารายได้เสริมหรือไม่หรือจดแจ้งเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายใน พ.ร.บ.โรงแรม โดยตรวจสอบรายได้จากการเสียภาษีย้อนหลังของผู้ยื่น ส่วนการนำอาคารหรูในเมืองหัวหินมาจดแจ้งในลักษณะเดียวกันหากมีปัญหาก็จะขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาต่อไป
“ฝ่ายปกครองได้กำชับผู้บริหารสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน–ชะอำ และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาการเปิดโรงแรมเถื่อนในกลุ่มสมาชิกบางราย เพื่อช่วยกันป้องกันผลกระทบ ร่วมกันสร้างมาตรฐานที่ดีให้กับเมืองท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ สำหรับโรงแรมที่มีใบอนุญาต แต่มีปัญหาจากการต่อใบอนุญาตทุก 5 ปี เนื่องจากไม่มีเอกสารเพื่อเปลี่ยนแปลงและรับรองการใช้อาคารตามแบบ อ.1 และ อ.6 จาก อบต.และเทศบาลประกอบการยื่นต่อใบอนุญาต ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนจากกรมการปกครอง เนื่องจากในอดีตเจ้าของได้นำแบบแปลนอาคารที่พักอาศัยไปยื่นขอใบอนุญาตโรงแรม ทำให้หลายฝ่ายแปลกใจว่าทางราชการออกใบอนุญาตให้ได้อย่างไร “ นายธนนท์ กล่าว
มีรายงานว่า การประชุมที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับจังหวัดสรุปว่ามีการออกใบอนุญาตโรงแรมผิดกฎหมายจากการใช้อาคารที่พักอาศัยไปยื่นขอใบอนุญาต และ มีคำสั่งสอบสวนข้าราชการฝ่ายปกครองเพื่อลงโทษทางวินัย ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 โดยมีเจ้าพนักงานอัยการได้รับมอบหมายทำหน้าที่ประธานในการประชุมเพื่อพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาผู้แทนจากเทศบาลเมืองฯแจ้งที่ประชุมว่า ปัจจุบันมีคำสั่งระงับการใช้อาคารโรงแรมดังกล่าวตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 แล้ว แต่ผู้ประกอบการอ้างว่ายังมีใบอนุญาตโรงแรมถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมาประธานขอให้ผู้ประกอบการชี้แจงเหตุผล หลังจากเทศบาลแจ้งให้เปลี่ยนแปลงจากที่พักอาศัยเป็นโรงแรม แต่พบว่ายังไม่ปรับปรุงตามระยะเวลาที่กำหนด โดยผู้ประกอบการสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดว่า หากเอกสารหลักฐานที่นำไปยื่นไม่ครบถ้วน ทางราชการพิจารณาออกใบอนุญาตให้ได้อย่างไร และการขอยื่นต่ออายุใบอนุญาตที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา กระทั่งเทศบาลมีการตรวจสอบว่ามีการใช้อาคารผิดประเภท ต่อมาเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต ทั้งนี้หากเจ้าของโรงแรมไม่ดำเนินการแก้ไข ทางราชการจะพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตโรงแรมเป็นแห่งแรกของประเทศ ขณะที่กรรมการหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประวิงเวลามานานกว่า 1 ปี หลังจากปกครองจังหวัดขอหารือแนวทางดำเนินการไปที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
