วันที่ 27 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวินันท์ วิระนะ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เปิดเผยถึงการดูแลสัตว์ป่าช่วงอากาศแปรปรวนว่า ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสนมีการเลี้ยงดูแลสัตว์ป่าของกลางที่รับมาจากทั่วประเทศ และสัตว์ที่เพาะเลี้ยงเพื่อเตรียมปล่อยคืนธรรมชาติ มีทั้งสัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เกือบ 3,000 ตัว ได้แก่ ลิงอุรังอุตัง หมีหมา หมีควาย งูเหลือม งูหลาม และสัตว์อีกหลายชนิด หลังเกิดอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว โดยที่สถานีวัดอุณหภูมิประมาณ 13-15 องศาเซลเซียส ทำให้สัตว์ต่างๆ ที่ดูแลปรับตัวไม่ทัน โดยหลังเกิดอากาศหนาวเย็นลงฉับพลันส่งผลให้สัตว์ปีกหลายชนิดล้มตายลงแล้ว เช่น นกคุ่ม นกกระติ๊ดขี้หมู นกเอี้ยงโครง ไก่ป่า รวมแล้วหลายสิบตัว
นอกจากนี้ ยังพบลิงแสมตายเพิ่มอีกจำนวน 2 ตัว โดยบริเวณตัวลิงพบขนหลุดร่วงเกือบทั้งตัว บริเวณภายในกรงพบลิงตัวเล็ก ตัวใหญ่เกาะกลุ่มกันยืนสั่นสะท้านจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น บางตัวพยายามปีนป่ายเกาะไปตามกรงไปหาแสงแดดเพื่อหาความอบอุ่น เนื่องจากทนกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นไม่ไหว แต่สำหรับเสือโคร่งจะดีกว่าสัตว์ประเภทอื่นตรงที่ว่าช่วงกลางคืน ยังสามารถเข้าไปนอนอยู่ในห้องในกรงได้ แตกต่างจากสัตว์อื่นมีเพียงกรงที่อยู่ในที่โล่ง ไม่มีห้องอีกชั้นที่จะหลบเข้าไปนอนได้
นายเสกสรร เอี่ยมหนู พนักงานพิทักษ์ป่า สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน เปิดเผยว่า สัตว์โดนผลกระทบจากภัยหนาว ซึ่งได้คำสั่งจากหัวหน้าสถานีฯให้คอยหาฟืนมาก่อสุมไฟให้เกิดความอบอุ่น คลายความหนาว หลังเกิดอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทำให้มีการตายของสัตว์เกิดขึ้น เช่น ลิง และนกหลายชนิดที่ต้านทานความหนาวไม่ไหว โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่อากาศหนาวจัดจะเกิดอาการน็อกกะทันหัน โดยเฉพาะลิงอาจจะมีขนหลุดร่วงมากผิดปกติจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด
อย่างไรก็ตาม หลังเจ้าหน้าที่ได้หาฟืนมาสุมก่อไฟใกล้กรงสัตว์ ทำให้ฝูงลิงและสัตว์หลายชนิดที่อยู่ในกรงต่างออกมายืนอยู่รวมกัน เพื่อผิงไฟให้เกิดความอบอุ่นแก่ร่างกาย นอกจากนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่คอยหมั่นดูแลความเป็นอยู่สัตว์ทุกชนิดอย่างใกล้ชิด หากพบมีการล้มตายให้นำออกจากกรงแล้วนำไปเผาซากหรือฝังกลบเพื่อทำลายทิ้ง
