โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจงเหตุปะทะ ‘บ้านกาตอง’ หวั่นถูกบิดเบือนให้เกิดความเข้าใจผิด

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจงเหตุปะทะ ‘บ้านกาตอง’ หวั่นถูกบิดเบือนให้เกิดความเข้าใจผิด

จากกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายสนธิกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่หมู่ 4 ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และคนร้าย ซึ่งเป็นแกนนำ รายสำคัญมีหมายจับ ป.วิอาญา 6 หมาย ถูกวิสามัญเสียชีวิต ในขณะเจรจาได้เกิดเพลิงไหม้บ้านหลังเกิดเหตุเสียหายทั้งหลัง ซึ่งหลังเกิดเหตุได้มีความพยายามเสนอข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริง กล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ทำ เกินกว่าเหตุ และจุดไฟเผาทำลายหลักฐานและขโมยเงินสดและทองคำของเจ้าของบ้านไปจำนวนมาก และวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส.ส.พรรคการเมืองหนึ่ง จ.ยะลา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กและให้ สัมภาษณ์ผ่านรายการหนึ่ง ชี้นำให้สังคมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ และเป็นต้นเหตุทำให้เกิดไฟไหม้บ้าน สร้างกระแสความรู้สึกเชิงลบต่อเจ้าหน้าที่รัฐอย่างกว้างขวาง

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ออกมาเปิดเผยชี้แจงข้อเท็จจริง ว่า การเข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่เป็นไปตามภาพข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายวางแผนเตรียมก่อเหตุในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฏอน เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย 60 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและ ได้ประสานผู้นำชุมชนได้รับทราบเพื่อร่วมเจรจากับกลุ่มคนร้าย

“ได้ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยได้เชิญ เจ้าของบ้านออกมา ซึ่งไม่ได้รับความร่วมมือซ้ำยังไม่ยอมบอกความจริง และเจตนาปกปิดข้อมูล โดยอ้างว่าไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จึงได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านและได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนระดมยิงใส่ จนต้องหลบเข้าที่กำบัง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย จึงให้ผู้นำศาสนามาช่วยเจรจาอีกรอบกว่า 1 ชั่วโมงแต่ไม่เป็นผล”พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว

พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวต่อว่า ได้เห็นกลุ่มควันบริเวณด้านหลังทางซ้ายของบ้านก่อนลุกไหม้อย่างรวดเร็วจึงได้เรียกรถดับเพลิงเข้ามาควบคุมเพลิงไว้ได้ หลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าได้เข้าตรวจสอบ และได้ถูกคนร้ายยิงใส่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และจากการ ตรวจสอบพบคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย คือนายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ พบประวัติเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 6 หมาย พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก

Advertisement

“พบวัตถุพยานสำคัญในบ้านอีกหลาย รายการ เช่น ซากรถจักรยานยนต์ 3 คัน แกลลอนน้ำมัน 4 ถัง ปุ๋ยยูเรีย 1 กระสอบ ถังแก๊สสีส้ม 2 ถัง และท่อเหล็ก อีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าน่าจะเตรียมนำมาใช้ประกอบระเบิดเพื่อก่อเหตุช่วง 10 วันสุดท้ายเดือนรอมฎอน”

พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวอีกว่า ตรวจพบร่องรอยการเผากองเสื้อผ้าบริเวณที่เห็นกลุ่มควันครั้งแรก ซึ่งน่าจะเป็นต้นเพลิงที่คนร้ายอาจเผาทำลาย หลักฐาน และเปิดทางหนี ปัจจุบันอยู่ระหว่างตรวจสอบสารพันธุกรรม เพื่อเชื่อมโยงกลุ่มคนร้ายต่อไป

พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวต่อว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ได้ทำด้วยความโปร่งใส ภายใต้การมีส่วนร่วมของผู้นำ 4 เสาหลัก โดยใช้มาตรการ จากเบาไปหาหนัก แต่ถูกคนร้ายใช้อาวุธยิงใส่จนบาดเจ็บไป 2 นาย จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง ใช้กำลังดำเนินการเพียง 60 นาย มิใช่กว่า 500 นาย ตามที่กล่าวอ้างและ ไม่ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ สิ่งที่ เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญอย่างมากในการบังคับใช้กฎหมายคือวัตถุพยาน เพื่อเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายร่วมก่อเหตุ ที่มีการกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าเผาเพื่อทำลายหลักฐานจึงฟังไม่ขึ้น และไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

Advertisement

“การออกมาเคลื่อนไหวของ นายซูการ์โน มะทา สส.พรรคประชาชาติ จ.ยะลา ควรดำเนินการด้วยความ ระมัดระวังและตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เพราะมิเช่นนั้นอาจตกเป็นแนวร่วมมุมกลับของกลุ่มขบวนการ ที่หวังทำให้เจ้าหน้าที่รัฐได้รับความเสียหาย หน่วยได้ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมแก่เด็กๆ ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ในเบื้องต้นไปก่อนแล้ว” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว

พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวต่อว่า การช่วยเหลือเยียวยาบ้านที่ได้รับความเสียหาย ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องตรวจสอบข้อมูลความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างเจ้าของบ้านกับผู้ก่อเหตุรุนแรงว่า มีส่วนช่วยสนับสนุนกันหรือไม่ พร้อมกับ ขอให้กลุ่มองค์กรต่างๆ เคลื่อนไหวด้วยความระมัดระวัง ภายใต้ข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านและไม่บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image