กาฬสินธุ์เอาจริง สถานศึกษาปลอดบุหรี่ พบสูบเจอโทษปรับเด็ดขาด

มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับสำนักงานควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ควบคุมเข้มสถานศึกษาเป็นเขตปลอดบุหรี่ ขณะที่ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัดกาฬสินธุ์ เดินสายมอบป้ายห้ามสูบบุหรี่ตามสถานศึกษา ขยายกลุ่มอายุจาก 18 ปีถึง 20 ปี หากฝ่าฝืนมีโทษปรับตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ในการคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชน พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน นายณัฐพงษ์ ประชากูล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิเทศศาสตร์หรือสื่อสารมวลชน นายศัศวัต ไพรพงษ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ในฐานะเลขานุการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัดกาฬสินธุ์ และคณะ ได้นำป้ายห้ามสูบบุหรี่ “สถานศึกษาเป็นเขตปลอดบุหรี่” จากมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ไปมอบให้กับวิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ โดยมีว่าที่ ร.ต.ลำปาง พันธ์เพชร รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนงานและความร่วมมือ วิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ พร้อมบุคลากร ครู เป็นตัวแทนรับมอบ

จากนั้น คณะผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้นำป้ายห้ามสูบบุหรี่ “สถานศึกษาเป็นเขตปลอดบุหรี่”ไปมอบให้กับวิทยาลัยสารพัดช่างกาฬสินธุ์ โดยมีนายสมพงษ์ แสนบุตร ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างกาฬสินธุ์ และบุคลากรครู นักศึกษา ร่วมรับมอบ ก่อนที่จะเดินทางไปมอบป้ายห้ามสูบบุหรี่ “สถานศึกษาเป็นเขตปลอดบุหรี่” ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษากาฬสินธุ์ โดยมีดร.กรณ์พงศ์ ดอกบัว ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษากาฬสินธุ์ และบุคลากร เป็นตัวแทนรับมอบ

นายศัศวัต ไพรพงษ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ในฐานะเลขานุการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ดำเนินการรณรงค์ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ ตามนโยบายของมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และสำนักงานควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยผลการดำเนินการที่ผ่านมา มีการผลักดันนโยบาย 4 ด้านคือ1.การสร้างเสริมความเข้มแข็งและพัฒนาขีดความสามารถ ของ อปท.ร่วมเป็นคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฯ, 2. การป้องกันนักสูบหน้าใหม่, 3. ช่วยให้ผู้เสพเข้ารับการบำบัดและเลิกใช้ยาสูบ และ 4.ทำสิ่งแวดล้อมให้ปลอดควันบุหรี่

Advertisement

นายศัศวัต กล่าวอีกว่าผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนโยบายการป้องกันนักสูบหน้าใหม่นั้น มีเป้าหมายหลักที่สถานศึกษา ซึ่งแต่เดิมพ.ร.บ.ควบคุมยาสูบในกลุ่มเด็กอายุถึง 18 ปี หรือถึงชั้น ม.6 ขณะที่ พ.ร.บ.ควบคุมยาสูบ พ.ศ.2560 ขยายกลุ่มควบคุมถึงอายุ 20 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนในสถาบันอาชีวะศึกษา และถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นนักสูบหน้าใหม่ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและพิษภัยอื่นๆที่จะติดตามมาจากการสูบบุหรี่

“ดังนั้น ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้นำป้ายห้ามสูบบุหรี่ “สถานศึกษาเป็นเขตปลอดบุหรี่” มอบให้กับสถาบันอาชีวศึกษานำร่อง 3 แห่ง ก่อนที่จะขยายกลุ่มเป้าหมายไปที่สถาบันการศึกษาอื่นๆต่อไป ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้รณรงค์ให้สถานศึกษาปลอดบุหรี่ ในปี2560 และ 2561 ทั้งระดับมัธยมศึกษาและประถมศึกษารวม 90 แห่ง ขณะที่ให้ความรู้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 156 แห่ง อสม.ชักชวนผู้เข้ารับการบำบัด 2,400 คน รณรงค์ติดป้ายที่สาธารณะปลอดบุหรี่ 80% อย่างไรก็ตามในส่วนของสถานศึกษาหรือสถานบันการศึกษา ตลอดทั้งสถานที่ราชการอื่นๆ ที่ได้รับมอบป้าย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยาสูบ พ.ศ.2560 หากพบฝ่าฝืน จะถูกระวางโทษปรับ 5,000 บาทตามกฎหมาย” นายศัศวัตกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image