เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ชุดศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว เเละป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.ณัฎฐภาคิน ขวัญชัยพฤกษ์ รอง ผบก.ตม 6. พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภาค 9 เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายเเดนกองร้อย ตชด.437 เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.42 เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ทุ่งลุง เจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ปคม. กวาดล้างจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมายชาวเมียนมา จับกุมได้ 15 คน เป็นชาย 14 คน และ หญิง1 คน ถูกนำมาพักไว้ในป่าพื้นที่ หมู่ที่1 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ รอยต่อ อ.หาดใหญ่ กับ อ.สะเดา จ.สงขลา รอการส่งไปยังประเทศมาเลเซียได้อย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวข่าวว่า นายหน้าสร้างเป็นเพิงพักชั่วคราวมุงด้วยผ้ายางเพื่อกันแดดกันฝนจำหน่วยหลายหลังและ บางจุดก็อาศัยอยู่ในพุ่มไม้ที่เถาวัลย์ปกคลุมหนาทึบ และทุกคนอยู่ในสภาพที่อิดโรยหิวโซมีร่องรอยของการใช้ไม้ตัดต้นกล้วยในป่า และผ่าเพื่อนำหยวกกล้วยมากินแก้หิวและประทังชีวิต
จากการสอบถามผ่านล่าม ทราบว่า มีนายหน้าเป็นชาวเมียนมา ได้นำมาหลบซ่อนไว้ เพื่อรอคนมารับนำส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถสอบขยายผล ติดตามจับกุมนายหน้าชาวเมียนมา 1 คน และนายหน้าคนไทย 2 คน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ เพราะยังอยู่ระหว่างการขยายผลในเชิงลึกว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ รวมทั้งได้พาไปตรวจค้นห้องเช่าในพื้นที่ อ.สะเดา ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เป็นที่พักพิงของแรงงานต่างด้าวด้วย พร้อมกับยึดเอกสารจำนวนหนึ่งมาตรวจสอบ
นอกจากนี้ มีการยึดรถเก๋ง1 คัน พบว่ามีหมวกแก๊ปของหน่วยงานหนึ่งวางอยู่ในรถด้วย เพื่อพรางตัวตบตาเจ้าหน้าที่ไม่ให้สงสัย และรถกระบะสี่ประตู 1 คัน ซึ่ง ซึ่งจากการสอบสวนนายหน้ารับว่า รถเก๋งใช้เป็นรถนำทาง ส่วนรถกระบะใช้สำหรับขนเเรงงานต่างด้าว โดยกระจกด้านหลังปิดทึบ กระบะด้านหลัง มีผ้ายางสีดำไว้สำหรับปกปิดเพื่อขนเเรงงานต่างด้าว
“เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 มาตรวจเก็บดีเอ็นเอทั้ง 3 คน รวมทั้งรอยนิ้วแฝงในรถทั้ง 2 คัน ไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวแรงงานต่างด้าวทั้ง 15 คน ไปเข้าสู่กระบวนการคัดแยกว่า ตกเป็นเหยื่อเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติหรือไม่ และสอบนายหน้าคนไทยทั้ง 3 คน เพื่อขยายผลไปยังเครือข่ายค้าแรงงานเถื่อน ทราบว่ามีทั้งชาวเมียนมา คนไทยและชาวมาเลเซียร่วมขบวนการด้วย” แหล่งข่าวกล่าว
เจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลมาจากการจับกุมนายหน้าและผู้นำพาที่เจ้าหน้าที่ ศพดส.ตร. เริ่มเปิดปฏิบัติการปราบปรามมาตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ในฐานะผอ.ศพดส.ตร.เพิ่งลงพื้นที่มาติดตามปัญหาเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยังคงมีความพยายามลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเข้ามาอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งขนด้วยรถกระบะ รถบัสโดยสาร รถตู้ หรือแม้แต่รถไปรษณีย์ โดยลักลอบเข้ามาทั้งทาง อ.แม่สอด จ.ตาก จ.กาญจนบุรี และ จ.ระนอง ปลายทางเดียวกันคืนประเทศมาเลเซีย เฉลี่ยต้องเสียค่าใช้จ่ายต่อหัวประมาณ 1 ล้านจ๊าด หรือราว 2 หมื่นบาท
