ชาวบ้านยื่น ปปช.โคราช สอบกำนันใช้ดินสาธารณะถมที่ตนเอง หลังร้องศูนย์ดำรงธรรมแต่ชื่อหลุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.จังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสมปอง ช้างสาร สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พร้อมทั้งตัวแทนชาวบ้าน ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนกรณีที่ชาวบ้านต้องการให้ตรวจสอบนายวรณัฐ ศรีวุฒิพงศ์ กำนันตำบลบัวใหญ่ นำดินที่ขุดจากสถานที่สาธารณะไปถมในที่ดินของตนเอง โดยไม่ได้มีมติจากประชาคมชาวบ้าน ซึ่งมีนายธนาวิน วิเทียนรัมย์ เจ้าหน้าที่ปราบปราม สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนชาวบ้าน พร้อมกับนำเรื่องให้นายมงคล ธาริสุต ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดนครราชสีมา พิจารณาต่อไป

ทั้งนี้นายสมปอง ช้างสาร สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบัวใหญ่ ในฐานะตัวแทนชาวบ้านผู้ร้องเรียน เปิดเผยว่า ปัญหาเรื่องร้องเรียนนี้ สืบเนื่องจากทางกรมทรัพยากรน้ำ ได้จัดทำโครงการแหล่งน้ำเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำปีงบประมาณ 2562 เป็นโครงการงานขุดลอกสระที่บ้านดอนฆ่าเสือ หมู่ 9 ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยกำหนดราคากลางเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561 โดยใช้ราคากลางเป็นเงิน 2,886,000 บาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 90 วัน สิ้นสุดสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562

ต่อมาเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2562 คณะกรรมการหมู่บ้านได้ทำหนังสือถึงสถานีฯ เรื่องขอปรับแบบการขุดลอกหนองน้ำบ้านดอนฆ่าเสือหรือหนองสะแบง เนื่องจากงานดังกล่าวมีคันดินสูง ทำให้บดบังวิสัยทัศน์ด้านหน้าโรงเรียนและไม่สะดวกในการสัญจรของผู้ปกครองที่จะมาส่งบุตรหลาน โดยขอดินที่ขุดลอกสระดังกล่าวไปถมที่วัดและที่โรงเรียนซึ่งเป็นที่สาธารณะ ซึ่งทางสถานีพัฒนาที่ดินนครราชสีมาเห็นว่าเป็นที่สาธารณะจริง จึงให้นำดินดังกล่าวไปถมที่วัดและโรงเรียนบ้านดอนฆ่าเสือทั้งสองแห่ง

แต่ปรากฏว่านายวรณัฐ ศรีวุฒิพงศ์ กำนันตำบลบัวใหญ่ ได้นำดินไปถมในที่ส่วนบุคคลของตนเอง โดยนายวรณัฐฯ อ้างว่าเนื่องจากที่ดินวัดและโรงเรียนดังกล่าวเต็มแล้ว จึงได้นำไปถมในบ่อปลาของตนเองเป็นจุดพักดินชั่วคราวก่อนเป็นระยะเวลา 90 วัน ซึ่งชาวบ้านเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากล เพราะที่วัดและโรงเรียนก็ยังไม่เต็มเลย อีกทั้งผู้รับเหมาที่ไหนจะขนดินถึง 2 รอบ ชาวบ้านเกรงว่าจะมีการนำดินไปถมเพื่อประโยชน์ส่วนตัวมากกว่า จึงได้นำเรื่องไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.บัวใหญ่ แต่ต่อมาก็ปรากฏว่ามีการนำรายชื่อชาวบ้านที่ร้องเรียนกว่า 80 คน ไปปิดประกาศไว้ที่บ้านกำนัน ทำให้ชาวบ้านเกรงว่าจะถูกอิทธิพลคุกคาม จนไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงได้นำเรื่องมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.จังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image