ความคืบหน้ากรณี น.ส.ศศิธร ชูจิต อายุ 30 ปี ชาว อ.เบตง จ.ยะลา แจ้งตำรวจถูกผู้หญิงวางยาลักลูกชายวัย 1 ขวบ 8 เดือนที่ริมถนนชนเกษม ตรงข้ามหน้าห้างแม็คโคร เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เมื่อบ่ายวันที่ 10 มิ.ย.62 ต่อมา น.ส.อิงอร กลิ่นชื่น อายุ 18 ปี ชาว จ.ตรัง แสดงตัวเป็นมารดาพร้อมนำหลักฐานสูจิบัตรแจ้งเกิดและยืนยันเป็นการฝากเลี้ยง เนื่องจากมีปัญหาครอบครัวและ น.ส.ศศิธร แท้งลูกโดยตำรวจสอบพบมีการแจ้งเกิดเด็กซ้ำ 2 ครั้งโดย น.ส.อิงอร ไปแจ้งเกิดเมื่อวันที่ 25 มี.ค.62 และ น.ส.ศศิธร แจ้งเกิดวันที่ 2 พ.ค.62 นั้น
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ต.ท.สมชาย พุทธรักษา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับพนักงานอัยการและพนักงานสอบสวนสอบปากคำ น.ส.อิงอร มารดาที่แท้จริงของเด็กแล้ว มีความเห็นร่วมกันว่า การประกาศหาผู้เลี้ยงบุตรของ น.ส.อิงอร ไม่เข้าข่ายความผิดฐานละทิ้งบุตรหรือค้ามนุษย์ แต่กระทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และมีความยากลำบากการเลี้ยงบุตรในขณะนั่น ซึ่งภายหลังต่อมามารดาของ น.ส.อิงอร เป็นผู้เดินทางมารับหลานชายกลับ จ.ตรังและยืนยันว่าจะเป็นผู้อุปการะหลานด้วยตนเอง จึงได้มอบเด็กไปอยู่ในครอบครอง และปล่อยตัว น.ส.อิงอรไปโดยไม่มีความผิด
พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า ส่วนการสอบสวนปากคำ น.ส.ศศิธร ซึ่งไม่ใช่มารดาของเด็ก นอกจากจะมีความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานตำรวจ กรณีอ้างถูกคนร้ายป้ายยาแล้วลักบุตรชายแล้ว ยังได้พบการกระทำผิดปลอมแปลงเอกสารรับรองการคลอดบุตรของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลแห่งหนึ่งแล้วได้นำไปขึ้นทะเบียนแจ้งเกิดยังที่ว่าการอำเภอ
“จึงได้แจ้งข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ และข้อหาใช้เอกสารทางราชการปลอม รวม 3 ข้อหา และคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำเพิ่มเติม โดยการกระทำของ น.ส.ศศิธร ยังไม่พบบุคคลอื่นเกี่ยวข้องด้วย “พ.ต.ท.สมชาย
