นำตัวมือบึ้มกลางตลาดนัดบ่อทอง ด.ช.14 ดับ เจ็บ 21 ทำแผนรับสารภาพ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 12 มิถุนายน ที่เรือนรับรองมณฑลทหารบกที่ 46 ค่าอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท. รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วม แถลงข่าวความคืบหน้าของคดีคนร้ายลอบนำรถ จยย.ประกอบระเบิดจอดทิ้งไว้บริเวณตลาดนัดบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานีหมายต้องการจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่มาดูแลความปลอดภัยในช่วงเดือนรอมฎอน 10 วันสุดท้าย แต่ปรากฏว่าการระเบิดครั้งนี้ได้คร่าชีวิตประชาชน 2 ราย 1 ในนั้นเป็นเด็กชายวัย 14 ปี และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เป็นเจ้าหน้าที่ทหารพราน 4 นาย และประชาชน 22 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยการแถลงข่าวในครั้งนี้มีญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบเข้ามาร่วมฟังด้วย

ด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้เร่งติดตามตัวคนร้ายโดยการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ในบริเวณที่เกิดเหตุพบผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 ราย และมีรถจักรยานยนต์ที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 คันรวมรถจักรยานยนต์ที่ประกอบระเบิด ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนและพิสูจน์ทราบในทางลับ จนสามารถควบคุมตัวได้ 3 รายและยึดรถจักรยานยนต์ได้ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิด ได้จำนวน 3 คัน หนึ่งในนั้นคือรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ โดยจากภาพกล้องวงจรปิดเจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน ว่าใครเป็นใคร หลังจากการจับกุมสามารถขยายผล ผู้ต้องหาดังกล่าว โดยให้ข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยผู้ต้องสงสัย ที่ถูกจับกุมได้ ให้การว่า ได้นำรถประกอบระเบิดจากโรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่ง


พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า จากนั้นก็มีคนร้ายอีกคนได้ขับรถจักรยานยนต์ อีกคันเข้าไปจอดไว้ที่จุดเกิดเหตุเพื่อรอรับคนร้าย ที่ขับรถประกอบระเบิดมาจอดไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถพิสูจน์ทราบได้แล้ว ว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 5 ราย แต่เชื่อว่ายังมี ผู้เข้าร่วมก่อเหตุอีกหลายราย ผู้สั่งการในครั้งนี้คือ นายบูคอลี หลำโซะ เป็นผู้เป็นผู้สั่งการ เป็นผู้นัดแนะ และเป็นผู้นำจักรยานรถประกอบระเบิดมาให้ ผู้ก่อเหตุนำไปประกอบระเบิดในครั้งนี้ หลังจากก่อเหตุเรียบร้อยกลุ่มคนร้ายก็ได้ไปรวมตัวกันที่ปอเนาะ ก่อนที่จะ แยกย้ายหลบหนีไป

“ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการนี้ก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบคำถามกับสังคมให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่ เนื่องจากหลังจากเกิดเหตุก็มีเว็บไซต์ และ Facebook ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี พยายามจะโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ว่าเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ วันนี้จึงได้ให้ ผู้ได้รับผลกระทบ เข้ามาร่วมรับฟังในการแถลงการณ์ในครั้งนี้ ส่วนคคนร้ายที่ยังหลบหนีอยู่กลางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งไล่ล่าติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ส่วนผู้ที่ถูกควบคุมตัว ในครั้งนี้ ถูกควบคุมตัวภายใต้กฎอัยการศึก และจะขยายผลเพื่อเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายที่มีส่วนในการก่อเหตุในครั้งนี้ต่อไป” พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าว

หลังจากการแถลงข่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ก่อเหตุ 2 รายที่ถูกจับกุมตัว คือ นายอาซิ มีนา ทำหน้าที่ชี้เป้าหมาย และ นายอับดุลรอเซะ สลาวะ หรือไซฟู ทำหน้าที่กดระเบิด พบต่อญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ โดยทั้งคู่ รับสารภาพผิดต่อญาติผู้เสียชีวิต และเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนเองพยายามที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่ไม่คิดว่าประชาชนต้องมาเสียชีวิตในครั้งนี้ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายไปทำแผนประกอบรับสารภาพทั้ง 2 จุด โดยจุดแรกที่คือที่ สถาบันปอเนาะ อัลอูลูมุลอิสลามิยะห์ (ปอเนาะควนดิน) ซึ่งเป็นที่ที่คนร้ายมารับรถจักรยานยนต์ประกอบระเบิดและเป็นที่รวมตัวกันหลังเกิดเหตุ จุดที่2 คือ ตลาดนัดบ่อทอง ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุระเบิด โดยมีประชาชนในพื้นที่เข้าสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก โดยประชาชนบางรายได้นำดอกไม้มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ได้เร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีในครั้ง

Advertisement

สำหรับการก่อเหตุในครั้งนี้ มีผู้เข่าร่วมก่อเหตุเบื้องต้น จำนวน 5 ราย โดยมีนาย นายบุคอลี หลำโซะ เป็นผู้เป็นผู้สั่งการ เป็นผู้นัดแนะ และเป็นผู้นำจักรยานรถประกอบระเบิดมาให้ผู้ก่อเหตุ โดยมีนาย อับดุลการิม สะตาปอ เป็นมอระเบิด โดยนายอับดุลการิม เป็นญาติกับนายอับดุลกอเดร์ สะตาปอ ซึ่งทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ประกอบรระเบิด ที่ยังหลบหนีอยู่ นายอาซิ มีนา ทำหน้าที่ชี้เป้าหมาย และ นายอับดุลรอเซะ สลาวะ หรือไซฟู ทำหน้าที่กดระเบิด ถูกจับกุมทั้งคู่ และมีผู้ก่อเหตุอีก 1 ราย ที่ถูกจับกุมอยู่แต่เจ้าหน้าที่ขอสงวนชื่อเอาไว้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image