กรณีชาวบ้านศาลาดิน ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และชาวบ้านสามขา ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร หลงเชื่อ บัตรสมาร์ทการ์ด “Kartu Sakti” และ “Expertpro” หรือ “บัตรพลังงาน” รักษาทุกโรค โดยอ้างสรรพคุณสุดวิเศษ สามารถใช้รักษาสารพัดโรคภัยไข้เจ็บด้วยวิธีพิสดารแค่ใช้แตะตามร่างกาย จุ่มน้ำดื่ม หรือวางใต้แก้วและนับ 1 ถึง 10 ก่อนยกดื่ม รวมถึงสามารถนำไปแปะติดอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือถังน้ำมันรถ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ โดยมีชาวบ้านหลงเชื่อจำนวนมาก ต่อมานักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญออกมายืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทั้งยังตรวจสอบพบสารอันตรายที่อาจก่อความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งอีกด้วย ตามขาวที่เสนอมาโดยตลอด
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. น.พ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงกรณีนำบัตรพลังงานมารักษาโรค ว่า บัตรดังกล่าวไม่ได้มีการจดทะเบียนขออนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เข้าข่ายยา หรือ เครื่องมือแพทย์ มีการโฆษณาอวดอ้างในการรักษาโรค ซึ่งไม่เป็นความจริง และบัตรนั้นไม่สามารถนำมารักษาโรคได้ เข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชน และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสินค้า หรือบริการ แจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ และได้มีหนังสือแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล และสาธารณสุขอำเภอทุกแห่ง ดำเนินการตรวจสอบและเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ดังกล่าว พร้อมรายงานผลการตรวจสอบและดำเนินการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา รวมทั้งแจ้งอำเภอทุกอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบเฝ้าระวัง และให้ความรู้แก่ประชาชนและแจ้งเตือนภัยไปยังจังหวัดทุกจังหวัด ส่วนการดำเนินการด้านกฎหมายเป็นอำนาจของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภค
น.พ.สมชายโชติ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีประชาชนร้องทุกข์กล่าวโทษ หรือแจ้งความจากผู้ใช้งานบัตรดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นมิได้นิ่งนอนใจ เร่งบูรณาการการทำงานร่วมทุกฝ่าย โดยมี พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เป็นหัวหน้าชุดในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว หากประชาชนได้รับความเสียหายจากบัตรดังกล่าวสามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน 1166 หรือร้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ www.ocpb.go.th หรือต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องบัตรพลังงานรักษาทุกโรค เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปชัดเจนว่า บัตรดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่นำมารักษาความเจ็บปวดได้ตามคำกล่าวอ้างของผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย จึงเป็นการหลอกลวงโดยปกปิดข้อความอันเป็นเท็จเผยแพร่ผ่านยูทูป จึงเป็นองค์ประกอบความผิดที่ยอมความไม่ได้ ตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น จะต้องไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ดังนั้น การกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายผู้ผลิต/ ตัวแทนจำหน่ายบัตรดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการในฐานะเป็นผู้เสียหายโดยตรงเพราะเป็นการกระทำความผิดต่อรัฐ ซึ่งผู้ใดก็สามารถกล่าวโทษได้
“ดังนั้น เป็นหน้าที่ของพนักงานสืบสวนสอบสวน ภ.จว.ขอนแก่น จะต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่า อันตรายกับชีวิตมนุษย์อย่างไร และต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม มาตรา 341 และ 343 ของประมวลกฎหมายอาญามีองค์ประกอบความผิด 1.ปกปิด 2หลอกลวง และเผยแพร่โฆษณาที่ได้ออกยูทูปด้วยการแนะนำ พร้อมมีภาพประกอบ ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีเอกสารทุกอย่างที่จะเป็นผู้กล่าวโทษดำเนินคดีตามกฎหมายอาญากับผู้ผลิตบัตร และตัวแทนจำหน่ายบัตรรักษาโรค ซึ่งจะดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด โดยกล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ผลิตบัตรและตัวแทนจำหน่ายบัตรดังกล่าว ซึ่งมี พนักงานสอบสวน สภ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น หรือทีมงานตำรวจสืบสวนสอบสวนชุดเฉพาะกิจในเรื่องดังกล่าวเป็นผู้กล่าวโทษในคดีนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว
