วันที่ 22 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยืนยง โอภากุล หรือ “แอ๊ด คาราบาว” ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชื่อดังของประเทศวง”คาราบาว” กล่าวระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตที่จ.เพชรบูรณ์ เมื่อคืนวันที 21 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า 38 ปีที่แล้ว เป็นมุมมองแค่เพียงด้านเดียว แต่ปรากฏว่าวันนี้วันเวลาเปลี่ยนไปแล้ว การรับรู้เรื่องกัญชาในหมู่มหาชน ชาวโลกและชาวไทยปัจจุบันนี้ รู้ดีว่ากัญชาเป็นยา ไม่ใช่เป็นยาเสพติดเป็นยารักษาโรค รักษาโรคที่หมอรักษาไม่ได้แล้ว เวลาเป็นมะเร็งไปทำฉายแสงทำคีโม เข็มละแสนกว่าบาทแสนสอง ทำสิบกว่าเข็มหมดไปล้านกว่า ก็ไม่หาย แล้วหมอก็บอกว่าผมทำเต็มที่แล้วนะกลับรอความตายที่บ้านไป ใครอยากตายว่ะมันก็ต้องกัญชาก่อนแล้วใช่ไหม
จากนั้นศิลปินเพลงเพื่อชีวิตระดับแนวหน้าของเมืองไทย กล่าวถึงอดีตนักมวยระดับแชมป์รายหนึ่ง โดยรับว่าเคยเห็นกับตาว่าพี้กัญชาก่อนชก และยอมรับกับแอ๊ด คาราบาวว่า ต่อยไม่ได้ถ้าไม่ได้พี้กัญชา จากนั้นแอ๊ดยังกล่าวย้ำว่า “เห็นไหมนักดนตรีก็พี้ นักกีฬาก็พี้แล้วจะเอาอะไรอีกว่ะ ไม่เชื่อลองไปถามตำรวจดูสิ ตนได้กัญชามาก็จากตำรวจๆก็พี้ เพียงแต่เขาไม่บอกเท่านั้นแหละ มีแต่สาธารณสุขเท่านั่นที่โง่ เพราะฉะนั้นจงตาสว่างนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป แล้วถ้าเผากัญชา 22 ตันเจอกันแน่นอน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ก่อนที่ แอ๊ด คาราบาว จะบรรเลงเพลงกัญชาได้กล่าวกับบรรดาแฟนคลับที่มาร้วมชมคอนเสิร์ตกกว่า 3,000 คนว่า “พี่น้องมีใครเป็นสายเขียวบ้าง(เสียงเฮตอบรับดังสนั่น) เยอะเหมือนกันนะ แบบนี้รัฐบาลจะต้านเราอยู่หรอ เดี๋ยวเราจะช่วยอาจารย์เดชากับฟรีกัญชา นอกจาก เซฟอาจารย์เดชา เซฟกัญชาแล้วก็ยังฟรีกัญชา” หลังจากนั้น แอ๊ด คาราบาว กล่าวถึงเพลงกัญชาโดยระบุว่า “เพลงนี้พี่เล็กกับตนแต่งเมื่อ 3 ปีที่แล้วเป็นความเข้าใจ ณ เวลานั้น”