วันที่ 22 มิถุนายน นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง กล่าวว่า ทางเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ได้รับนโยบายจาก นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชกำชับให้ดูแลมาเรียมอย่างเต็มที่และจะมีการส่งกำลังเข้ามาเสริมทั้งทีมสัตวแพทย์ จากกรมอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่จากอุทยานฯใกล้เคียง ถ้าไม่พอจริงก็จะร้องขอไป เพราะขณะนี้เริ่มเข้าสู่มรสุมใหญ่ คลื่นลมในทะเลจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ ประกอบกับยังมีเรือประมงจากอำเภออื่นๆ แวะเข้าจอดหลบคลื่นลมในบริเวณเขาบาตู พื้นที่อนุบาลมาเรียม
นายชัยพฤกษ์กล่าวอีกว่า จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ออกไปแจ้งให้ออกไปจากพื้นที่ เพราะห่วงมาเรียมเห็นจะว่ายน้ำไปหากลัวจะถูกชน หรือถูกใบพัดเรือได้ ประกอบกับในช่วงน้ำใหญ่ น้ำทะเลจะขึ้นสูงและลงต่ำสุด มาเรียมจะเกยตื้นทุกคืน จึงต้องจัดเวรยามร่วมกับฝ่ายปกครองในการเฝ้าระวังลาดตระเวนตามหามาเรียมเมื่อน้ำลด เพราะห่วงได้รับอันตรายจากการเกยตื้น
“เบื้องต้น ได้ออกคำสั่งให้พนักงานราชการและพนักงานเจ้าหน้าที่ในสังกัดที่อยู่ในพื้นที่ จ.ตรัง ทั้ง 4 หน่วย รวม 17 นาย ให้มาเข้าเวรติดตามเฝ้าระวังและอนุบาลลูกพะยูนมาเรียมให้ปลอดภัย โดยร่วมกับทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานฯ และทีมสัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม โดยให้ปฏิบัติงานเฝ้าระวังอยู่ประจำบริเวณหน้าบาตู พื้นที่อนุบาลมาเรียมตลอด 24 ชม. หรือจนกว่าภารกิจการติดตามเฝ้าระวังลูกพะยูนเสร็จสิ้น” นายชัยพฤกษ์กล่าว
นายชัยพฤกษ์กล่าวอีกว่า การเฝ้าระวังเรือทุกชนิดห้ามเข้าบริเวณที่ทำการอนุบาลพะยูนมาเรียมโดยเด็ดขาด ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของมาเรียม ตรวจตราลาดตระเวนเฝ้าระวังการเกยตื้นของมาเรียม สนับสนุนช่วยเหลืองานอนุบาลลูกพะยูนมาเรียมและทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวข้อง โดยให้ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย และหนังสือสั่งการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด หากมีปัญหาหรืออุปสรรคประการใดให้รีบรายงานโดยด่วน
