กรณีประเทศเพื่อนบ้านมีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ซึ่งอธิบดีกรมปศุสัตว์ได้สั่งให้จังหวัดชายแดนเข้มงวดและป้องกันการแพร่ระบาดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรจากประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมออกประกาศห้ามนำเข้าสุกร หมูป่า ซากสุกร และซากหมูป่า จากประเทศเพื่อนบ้านนั้น
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน นายสัตวแพทย์จงเจริญ มากสุวรรณ นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์หนองคาย กล่าวว่า ที่ด่านกักกันระหว่างประเทศด่านหนองคาย ได้ทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อยานพาหนะที่จะเข้าด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ทุกคัน ซึ่งในช่วงนี้ได้เพิ่มความเข้มข้นยาฆ่าเชื้อ 1 ลิตรต่อน้ำ 200 ลิตร จากเดิมยาฆ่าเชื้อ 1 ลิตร ต่อน้ำ 600 ลิตร เพื่อการป้องกันเชื้อโรคที่ติดมากับยานพาหนะที่จะเดินทางเข้าประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทำการฉีดพ่นผ่านระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ตั้งแต่เปิดด่านจนถึงปิดด่าน เวลา 06.00 – 22.00 น.ทุกวัน
“สำหรับการนำเข้าสุกร และซากสุกรเข้ามาในประเทศผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แทบจะไม่มี ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกทั้งลูกสุกร สุกรแม่พันธุ์-พ่อพันธุ์ และซากสุกร ซึ่งรถที่ขนสุกร ซากสุกร ไปส่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่เมื่อรถกลับมาต้องผ่านการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อที่ศูนย์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะบรรทุกสินค้าปศุสัตว์ ที่อยู่ภายในบริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย นอกจากนี้ ปีนี้ยังได้ทำจุดทำลายเชื้อบริเวณหน้าทางเข้าอาคารผู้โดยสารขาเข้า โดยได้นำยาฆ่าเชื้อมารดผ้าให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศได้เหยียบ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคระบาดที่อาจจะติดมากับผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศอีกด้วย” นายสัตวแพทย์จงเจริญ กล่าว
ด้านที่ จ.นครพนม หลังมีข่าวการแพร่ระบาดเกี่ยวกับโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาดในเขต สปป.ลาว ส่งผลให้ หน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้มีการเพิ่มมาตรการเข้มในการตรวจสอบ ดูแล ควบคุม การ นำเข้า ส่งออก เนื้อสัตว์ รวมถึงซากสัตว์ และเนื้อสุกร ตามจุดผ่อนปรนชายแดนต่างๆ อีกทั้งห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ป่าที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ แพร่ระบาดของโรคในสัตว์ที่จะเกิดอันตรายต่อคนด้วย
