จิตอาสา 904 จับมือ’คร.-สถ.’ป้องกันไข้เลือดออก ถวายสมเด็จพระสังฆราช

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2562 ที่วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระวันรัต กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ให้โอวาทเปิดโครงการรณรงค์ จิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม ป้องกันโรคไข้เลือดออก และ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) ร่วมกับ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม จิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม ป้องกันโรคไข้เลือดออก พร้อมนายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการเขตพระนคร นายชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร และ พญ.ชีวนันท์ เลิศพิริยสุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง เพื่อสร้างองค์ความรู้และความตระหนักในการป้องกันตนเองของประชาชน และสร้างความรับผิดชอบต่อส่วนรวมในการลดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในสถานที่ชุมชนและสถานที่สำคัญต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการป่วยไข้เลือดออกของประชาชน

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคไข้เลือดออกที่มีแนวโน้มสูงขึ้น คาดการณ์ว่า ปี 2562 จะมีการระบาดอย่างต่อเนื่องและตลอดทั้งปี จะพบผู้ป่วยถึง 100,000 ราย จากรายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 18 มิถุนายน 2562 พบผู้ป่วย 31,843 ราย เสียชีวิต 48 ราย ซึ่งพื้นที่การระบาดกระจายอยู่ในทุกภาคทั่วประเทศ โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีผู้คนอยู่รวมกัน เช่น ชุมชน วัด โรงเรียน และโรงพยาบาล เป็นต้น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงร่วมมือกับ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จัดทำโครงการรณรงค์ จิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม ป้องกันโรคไข้เลือดออก เพื่อเป็นแบบอย่างและสร้างความตระหนักต่อสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกแก่เครือข่ายและประชาชนในทุกระดับ ทุกพื้นที่ และระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม และ ในวันที่ 26 มิถุนายน 2562 นี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก จะเจริญพระชันษา 92 ปี จึงเป็นโอกาสดีที่พวกเราจะร่วมกันทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ โดยกิจกรรมประกอบด้วย การกำจัดขยะ ภาชนะที่มีนํ้าขัง ทำความสะอาดบริเวณวัด และรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชน

นายสุทธิพงษ์ ในฐานะ จิตอาสา 904 หลักสูตรพื้นฐาน รุ่นที่ 1/62 กล่าวว่า ทุกคนมารวมกันทำกิจกรรมในวันนี้ เพราะจากที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ทรงเห็นปัญหาของสังคมไทย ที่ทุกวันนี้ผู้คนใช้ชีวิตแบบตัวใครตัวมันมากขึ้น พระองค์จึงทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะปลุกความเป็นจิตอาสาของคนในสังคมให้กลับคืนมา โดยทรงเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมเป็น “จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.” โดยผู้สมัครทุกคนจะได้รับเครื่องแบบ เครื่องหมาย หมวกแก๊ป ผ้าพันคอ และบัตรประจำตัวจิตอาสาสีฟ้า ซึ่งพระองค์ท่านทรงออกแบบด้วยพระองค์เอง ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ “904 วปร.” ให้อยู่ในชื่อของจิตอาสานี้ด้วย นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งต่อพวกเราชาวจิตอาสาทุกคน

“ในเครื่องแบบจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. อันเป็นสิริมงคลนี้ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายที่ปรากฏบนเสื้อ หรือผ้าพันคอ จะมีภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ ที่ตอกย้ำว่า เราทุกคนต้องร่วมกันทำความดีด้วยหัวใจ มีความเป็นจิตอาสา มีความเสียสละ เพราะพระองค์ท่านต้องการเห็นสังคมที่ดีขึ้น ส่วนสีที่อยู่ในเครื่องแบบ สำหรับสีเหลืองนั้น คือสีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสีฟ้า คือสีประจำวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่เมื่อพวกเราชาวจิตอาสาได้สวมเครื่องแบบนี้ จะถือว่าเป็นบุญ และเป็นมงคลอย่างยิ่งต่อชีวิต

Advertisement

ดังเช่นที่ สมเด็จพระวันรัต ประทานโอวาทว่า วันนี้ถือเป็นมงคลยิ่งของชีวิต ที่เราได้มาช่วยกันบำเพ็ญประโยชน์เป็นจิตอาสา ช่วยให้บ้านเมืองดีขึ้น ประชาชนได้มีความสุข คนทำก็จะเจริญรุ่งเรือง การมาร่วมกันในวันนี้ ก็เท่ากับได้มาร่วมแสดงความจงรักภักดี ได้ทำสิ่งที่ดีเป็นมงคล ขอให้ช่วยกันทำเช่นนี้ต่อไป ไม่ใช่ทำแค่เฉพาะวันนี้ เพื่อสานต่อพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่เป็นแค่กิจกรรมไฟไหม้ฟาง ให้ความเป็นจิตอาสาฝังอยู่ในใจของเราทุกคน อยากขอแรงผู้ที่เป็นเสมือนบัวที่พ้นน้ำ เป็นผู้รู้แจ้งเห็นจริง ช่วยกันประชาสัมพันธ์กระจายข่าวให้พี่น้องประชาชนมีความเข้าใจ ได้เกิดอุดมการณ์ของความเป็นจิตอาสา แม้จะยังไม่ได้เข้าสมัครเป็น “จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.” ในทางนิตินัย แต่สามารถเป็นจิตอาสาทางพฤตินัยได้เช่นกัน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวและว่า

สถ.ได้ร่วมกับจิตอาสาของกรมควบคุมโรค ทำบุญให้ชาวไทย โดยกิจกรรมวันนี้ช่วยลดการเกิดโรคไข้เลือดออก ได้ช่วยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งการบำเพ็ญประโยชน์ที่เป็นกุศลนี้ พวกเราพร้อมใจถวายเป็นพระกุศล พระชนมายุ 92 พรรษา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ซึ่งชาวจิตอาสา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้ง 7,851 แห่ง จะไม่ทำแค่เพียง 1 วันเท่านั้น แต่จะทำกันทุกสัปดาห์ เพื่อตัดวงจรชีวิตของยุงลาย นอกจากนี้กรมฯยังขอให้ทุก อปท. ดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวพันกับวงจรของยุงด้วย เช่น เรื่องการคัดแยกขยะ การปลูกฝังตามหลักการตามแนวทาง 3 Rs คือ Reduce ใช้น้อย Reuse ใช้ซ้ำ และ Recycle นำกลับมาใช้ใหม่ โดยเฉพาะการจัดทำถังขยะเปียกครัวเรือน เป็นการคัดแยกขยะเปียกออกจากขยะทั่วไป เพราะขยะเปียกทำให้เกิดการเน่าเสีย เป็นแหล่งเพราะพันธ์ยุง เป็นตัวทำลายชั้นบรรยากาศโลก เป็นแหล่งเกิดโรคต่างๆอีกมาก เช่น โรคไข้ซิกา กรมฯตั้งเป้าหมายให้ทุกครัวเรือนมีการจัดทำถังขยะเปียกให้ครบ 100%

“สำหรับพื้นที่ หรือ บริเวณที่อาจเกิดน้ำขัง เช่น ครัวหรือที่ลุ่มนั้น สถ.ได้ขอให้ อปท. ช่วยให้คำแนะนำให้พี่น้องประชาชนร่วมกันทำ “ธนาคารน้ำใต้ดิน” ที่เป็นการบริหารจัดการน้ำในระดับครัวเรือน บริเวณที่อยู่อาศัย ทำได้ง่าย ใช้งบประมาณไม่เยอะ ประชาชนในชุมชนท้องถิ่นสามารถได้ประโยชน์ คือ หาแหล่งที่อยู่ให้กับน้ำ โดยการอัดน้ำลงในพื้นที่ของตนเอง ให้น้ำซึมลงดิน ลดการเกิดน้ำขัง ไม่ให้น้ำในพื้นที่ของตนเองหรือพื้นที่นั้นๆ ไหลไปรวมกันจนเกิดการสะสมเพิ่มปริมาณมากจนการเกิดน้ำท่วมหรือน้ำป่าไหลหลากได้

Advertisement

ด้านศาสนสถานต่างๆ สถ.ได้ให้ อปท. ร่วมมือกับทุกภาคส่วน ดำเนินโครงการ “วัด ประชา รัฐ สร้างสุข” พัฒนาวัด ตามแนวทาง 5ส ให้ศาสนสถานเป็นศูนย์กลางพัฒนาด้านสุขภาพ พลานามัย และ สิ่งแวดล้อมต่างๆ โดยอาจกำหนดแผนปฏิบัติการจัดทำ 5ส เช่น การทำความสะอาดให้ทำทุกวัน หรือทุกอาทิตย์ ให้ฝังอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน ขอฝากทุก อปท. ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตื่นตัวป้องกันโรคไข้เลือดออก เน้นย้ำว่า หากมีอาการเจ็บป่วย ควรหลีกเลี่ยงการซื้อยามารับประทานเอง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและวิธีการรักษาให้ถูกต้อง” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image