เมื่อวันที่ 27 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจัด กุ่มประสิทธิ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว กล่าวว่า ในช่วง 4-5 วันมาแล้ว มีหมู่ป่าลงจากเขาอุทยานแห่งชาติปางสีดา ลงมากินมันสำปะหลังชาวบ้าน สร้างความเสียหายจำนวนมาก
“หมูป่าจะลงจากเขาทางด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน หมูป่าเหล่านี้อยู่ในอุทยานแห่งชาติปางสีดา กับอุทยานแห่งชาติตาพระยา มาหากินมันสำปะหลังที่ชาวบ้านปลูกไว้ ในช่วงกลางคืน และลงมาหากินติดต่อกันแล้ว 5 วัน และเมื่อคืนวันที่ 26 มกราคม ได้ลงมากินมันสำปะหลังที่บ้านหนองบัว หมู่ 7 ต.ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติปางสีดา ด้านทิศเหนือประมาณ 5 เมตร และที่หมูป่าลงมากินมันสำปะหลังในช่วงนี้ อาจมีสาเหตุมาจากในระยะนี้เกิดภัยแล้ง ดินแห้งมาก หมูป่าไม่สามารถขุดคุ้ยหาอาหารได้ จึงได้อพยพมาหากินมันสำปะหลังแทน ซึ่งหมู่ป่ากลุ่มนี้ คาดว่าจะมีประมาณ 40–50 ตัว และขณะนี้ ได้ให้เจ้าของไร่มันสำปะหลังที่ยังไม่ได้ถอน ได้เข้าไปเฝ้าที่ไร่แล้ว ซึ่งโดยธรรมชาติสัตว์ ถ้าได้กลิ่นคนจะไม่เข้ามาอีก แต่จะไปหากินมันสำปะหลังแหล่งอื่นต่อ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ ยังไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย แสดงว่าหมูป่าขาดแคลนอาหารอย่างหนักในขณะนี้” นายจัดกล่าว
ด้านนายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติปางสีดา กล่าวว่า กรณีหมูป่าจากอุทยานแห่งชาติปางสีดา ลงจากเขามาหากินมันสำปะหลังของชาวบ้าน นั้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล หากพบเห็นก็จะให้ประทัดขับไล่ต้อนกลับเข้าป่าไป สาเหตุที่หมูป่าลงมาหากินมันสำปะหลังชาวบ้าน น่าจะมาจากบนอุทยานเกิดความแห้งแล้ง ไม่มีน้ำ ให้หมูดื่มกิน ดังนั้นในเบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลก่อน เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อย่างไรก็ดีจะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยได้ปรึกษากับ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วแล้ว เพื่อของบประมาณจัดสร้างแหล่งเก็บน้ำเล็ก ๆ อาจเป็นฝายเล็กๆ ในพื้นที่อุทยาน สร้างเป็นจุด ๆ เพื่อให้หมู่ใช้ดื่ม ในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งโดยปกติ ถ้ามีแหล่งน้ำอยู่ตามธรรมชาติบริเวณป่าอุทยานแห่งชาติ หมูป่าจะไม่ลงมาหากินในที่ราบแน่นอน
“ขณะนี้ได้ประสานกับ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำหมู่บ้าน ที่อยู่ในพื้นที่ติดกับอุทยานแห่งชาติ ปางสีดาหรืออุทยานแห่งชาติตาพระยา ช่วยดูแลหมู่ป่า หากพบให้ต้อนเข้าป่าไป จนกว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำได้” นายประวัติศาสตร์ กล่าว