เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.สส.ภ.6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.ภาค 6 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 6 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีหลอกลวงฉ้อโกงทรัพย์ผ่านเฟซบุ๊ก จนมีผู้เสียหายสูญเงินเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา น.ส.พัชรินทร์ อินทร์สวน อายุ 22 ปี ชาว ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ว่ามีคนร้ายใช้ชื่อ Facebook ว่า บีเอ็ม บีเอ็ม (สู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า) ติดต่อมายังเฟซบุ๊กของผู้เสียหาย แล้วแชตข้อความพูดคุยชักชวนผู้เสียหายว่าสามารถฝากเข้าทำงานสังกัดกรมการปกครองโดยจะได้บรรจุเป็นข้าราชการและทำงานที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลกได้ทันที แต่มีค่าใช้จ่ายในการฝากเข้าทำงานเป็นเงินกว่า 38,500 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินให้คนร้ายดังกล่าว เข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์พร้อมเพย์ ชื่อบัญชี น.ส.วิลัยวรรณ์ ดีสังข์ แต่หลังจากโอนเงินให้คนร้ายแล้วก็ไม่สามารถติดต่อได้
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 6 สืบทราบว่า เบอร์โทรศัพท์ พร้อมเพย์ ผูกกับบัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “Kru Lack’er” เมื่อเปรียบเทียบภาพใบหน้าเจ้าของเฟซบุ๊ก ตรงกับภาพใบหน้าของนางสาววิลัยวรรณ์ จึงเชื่อว่าเป็นบุคคลเดียวกันจากนั้นได้ทำการตรวจสอบบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์พร้อมเพย์ ชื่อบัญชีนางสาววิลัยวรรณ์ ดีสังข์ พบว่ามีข้อมูลยอดเงินที่ผู้เสียหายโอนเข้าบัญชีธนาคารดังกล่าวและมีการกดถอนเงินออกจากบัญชีที่ตู้เอทีเอ็ม สาขา ปตท.มิตรภาพ ขอนแก่นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเป็นผู้ชายลักษณะคล้ายกับแฟนของนางสาววิลัยวรรณ์ ทราบภายหลัง คือ นายทรงวุฒิ หมื่นรัฐ ได้กดถอนเงินออกจากบัญชีที่ตู้เอทีเอ็ม สาขาห้างโลตัสขอนแก่นในวันเดียวกัน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน 1 กข 1126 กทม. มาจอดภายในห้างแล้วมีนางสาววิลัยวรรณ์ เดินเข้ามาภายในห้างกดถอนเงินออกจากตู้เอทีเอ็ม
ทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 6 จึงได้เดินทางไปที่จังหวัดขอนแก่น ประสานข้อมูลกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 จนทราบว่าคนร้ายที่ก่อ เหตุในคดีนี้คือคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น คือ นายทรงวุฒิและนางสาววิลัยวรรณ์ได้หลอกลวงผู้เสียหายในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เคยก่อคดีหลอกลวงเฟซบุ๊ก ตั้งแต่ปี 2557 ว่าสามารถฝากเข้าทำงานการไฟฟ้าได้ 10 กว่ารายที่เป็นผู้เสียหาย ถูกดำเนินคดีไปแล้ว 1 ครั้ง และยังกลับมาก่อนเหตุในหลายทั้ง ซึ่งทางสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ต่อมาในวันที่ 25 มิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายทรงวุฒิ และนางสาววิลัยวรรณ์ ได้ที่หอพักในอำเภอน้ำพองจังหวัดขอนแก่นพร้อมโทรศัพท์มือถือที่ใช้เข้า เฟซบุ๊ก ชื่อ บีเอ็ม บีเอ็ม (สู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า) และรถเก๋งคันหมายเลขทะเบียน 1 กข 1126 กทม. ที่ใช้ขับขี่ไปกดถอนเงินของผู้เสียหายออกจากบัญชี นางสาววิลัยวรรณ์ โดยขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ถูกดำเนินคดีอยู่ที่ขอนแก่น โดยผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้โอนเงินทั้งหมดนั้น อยู่ ประมาณ 700,000 บาท
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 6 ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกที่เคยถูกผู้ต้องหาทั้งสองหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวมาแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ราย ที่ถูกหลอกลวงในพื้นที่พิษณุโลก จึงอยากให้มาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ซึ่งไม่ต้องเกรงว่าจะเป็น 2-3 พันบาทก็ตาม แต่ผู้เสียหายหลายรายก็เป็นเงินจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งอย่างไรก็ตามประชาชนที่ถูกหลอก ก็สามารถมาแจ้งความ ที่ กองบังคับตำรวจสืบสวนภาค 6 ได้
