เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เป็นประธานนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานใน พิธีการเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลาง ครั้งที่ 49 จำนวน กว่า16,467 กรัม และเมล็ดกัญชงอีก 164,999 จาก 6,910 คดี มูลค่ารวมกว่า 20,047 ล้านบาท เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดสากล โดยมีทูตานุทูต ผู้นำเหล่าทัพ ผู้บริหารจากทุกส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ร่วมเป็นสักขีพยาน
สำหรับยาเสพติดที่นำมาเผาทำลาย ประกอบไปด้วยยาบ้า 137 ล้านเม็ด เฮโรอีน 143 กิโลกรัม ยาไอซ์น้ำหนัก 3,443 กิโลกรัม เฮโรอีน143 กิโลกรัม ยาอี น้ำหนัก 14 กิโลกรัม โคคาอีนน้ำหนัก 44 กิโลกรัม ฝิ่นน้ำหนัก 258 กิโลกรัม รวมถึงวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทอื่นๆ น้ำหนักกว่า 193 กิโลกรัม และเมล็ดกัญชง จากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดจำนวน 16,499 กิโลกรัม การเผาจะใช้วิธีไพโรไลติก อินซิเนอะเรชั่น (Pyrolytic Incineration) ซึ่งเป็นการเผาที่อุณหภูมิ สูงกว่า 850 องศาเซลเซียส โดยจะทำให้เกิดการสลายตัวของโมเลกุลกลายเป็นคาร์บอนในระยะเวลาอันรวดเร็วไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศ และจะไม่มียาเสพติดหวนกลับมาใช้ได้อีก ซึ่งในการเผาทำลายยาเสพติดครั้งนี้ไม่พบว่ามีการนำกัญชามาเผา ซึ่งมีน้ำหนักกว่า22 ตัน ได้มีการคัดแยกกัญชาที่ไม่มีสารปนเปื้อน แล้วทาง ปปส ได้ขอนำกลับคืนไป เพื่อให้หน่วยงานได้ขออนุญาตเพื่อนำไปศึกษาวิจัย
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงะค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบูรณาการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่องโดยเฉพาะด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดโดยให้ความสำคัญในการป้องกันไม่ให้กลับมาเสพซ้ำอีกซึ่งในงบประมาณปี 2562 ตั้งเป้านำผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัด 2 1 9,2 7 5 คน แบ่งเป็นระบบสมัครใจ 136,725 คนบังคับบำบัด 56, 550 คนต้องโทษ 26,000 คน ผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2561 ถึง 18 มิถุนายน 2562 นำผู้เสพเข้ากระบวนการบำบัดแล้ว 133,9 62 คน คิดเป็นร้อยละ61.09 ระบบสมัครใจ 61,360 บนระบบบังคับบำบัด 58,864 คนและระบบต้องโทษ 13,738 คนโดยมีโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศกว่า 800 แห่งพร้อมระบบบำบัดรักษาที่ได้ มาตรฐาน สากล
