ห่วง’มาเรียม’ซ้ำรอย’เจ้าโทน’พะยูนน้อยติดเครื่องมือประมงตาย

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน รายงานข่าวจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแจ้งว่า วันที่ 27 มิถุนายนนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีกำหนดการเดินทางยังจังหวัดตรัง เพื่อเยี่ยมติดตามการดูแลพะยูนมาเรียม ที่อ่าวดุหยง เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง และร่วมประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนอนุรักษ์พะยูนจังหวัดตรัง ช่วงเช้าถึงท่าเรือหาดยาวเดินทางต่อไปยังอ่าวดุหยง ต.เกาะลิบง เกาะลิบง จากนั้นจะประชุมบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายยาเหตุ หะหวา อายุ 62 ปี ชาวบ้านเจ้าไหม ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า ตนนำกระดูกส่วนสันหลังของเจ้าโทน พะยูนน้อยแสนรู้แห่งทะเลตรัง เมื่อปี 2535 – 2536 ที่ยังหลงเหลืออยู่โดยไปเก็บกลับมาจากโรงเรียนบ้านหาดยาว ต.เกาะลิบง ที่นำไปจัดแสดงไว้ให้เด็กๆ ได้ดูทั้งตัว แต่สูญหายเกือบหมดเหลือเฉพาะกระดูกส่วนสันหลัง เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2535 ช่วงขณะน้ำลงขณะที่ลูกชายกับเพื่อนเดินหาหอยชักตีนอยู่บริเวณแหล่งหญ้าทาว่ะเลหน้าหมู่บ้านปรากฎว่าไปพบเจอพะยูนน้อยตัวหนึ่งอายุประมาณไม่ถึง 2 ปี เกยตื้นอยู่จึงช่วยเหลือพากันนำกลับลงน้ำ และหลังจากนั้นเมื่อตนเองและชาวบ้านลงไปเล่นน้ำทะเลบริเวณดังกล่าวเจ้าโทนแรกเริ่มยังไม่คุ้นคนก็จะว่ายน้ำหนี แต่เมื่อพบเจอคนทุกวันๆ และเริ่มคุ้นเคยก็ว่ายน้ำเข้า” มาหา ยอมเล่นด้วย จนกระทั่งให้ยอมให้อุ้ม ให้กอด จึงช่วยกันตั้งชื่อว่า เจ้าโทน เพราะอาศัยอยู่เพียงลำพังตัวเดียว หลังๆมาเมื่อตนเองหรือชาวบ้านที่คุ้นเคยบางคนเรียกชื่อหาเจ้าโทนๆๆ เจ้าโทนซึ่งกินหญ้าอยู่บริเวณใกล้ๆนั่นก็จะยกหางตีน้ำตอบกลับมาว่าอยู่ตรงไหน แล้วว่ายน้ำมาหา หรือบางคนใช้มือตบผิวน้ำเบาๆ เจ้าโทนก็จะว่ายน้ำมาหา โดยเลี้ยงเจ้าโทนอยู่ได้ไม่ถึง 1 ปี เจ้าโทนก็ตาย เพราะถูกเครื่องมือประมง ตอนตายเจ้าโทน หนักประมาณ 47 กิโลกรัม ยาวประมาณ 147 เซนติเมตร

นายยาเหตุ กล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างเจ้าโทนกับมาเรียมคือ เจ้าโทน เป็นพะยูนเพศผู้ อายุมากกว่ามาเรียมขณะนี้ เจ้าโทนหย่านมแม่แล้ว กินหญ้าทะเลเองในธรรมชาติเป็นแล้ว แต่มาเรียมยังเล็ก ต้องอาศัยคนป้อนนม และกำลังฝึกหัดกินหญ้า ตนเองดีใจมากที่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านร่วมกันดูแลมาเรียมอย่างดีเหมือนลูก ส่วนที่เป็นห่วงคือ เราจะปล่อยให้มาเรียมออกไปหากินข้างนอกไม่ได้ เพราะเชื่อว่ามันจะคุ้นคน และจะต้องเข้าหาคน เข้าหาเรือ หากปล่อยให้มาเรียมออกไปไกลในธรรมชาติมันจะต้องตายติดเครื่องมือประมงแน่นอน

Advertisement

“จึงอยากให้ควบคุมพื้นที่ไม่ให้มาเรียมออกไปไกล และอย่าให้เรือใดๆเข้าในบริเวณพื้นที่ที่มาเรียมอาศัยอยู่ เพราะลักษณะนิสัยของพะยูนหากอยู่บริเวณไหนจะอยู่บริเวณนั้น นอกจากช่วงฤดูผสมพันธุ์ที่จะออกไปไกล ส่วนเรื่องการเกยตื้นถ้าเจ้าหน้าที่จัดเวรยามลาดตระเวนและตามหามาเรียมเจอทุกครั้งขณะเกยตื้นช่วงน้ำลงมาเรียมจะไม่ตาย แต่หากหาตัวไม่พบและเกยตื้นเป็นเวลานานจนผิวแห้งมาเรียมจะตายได้ เช่นเดียวกับชาวบ้านบ้านเจ้าไหมคนอื่นๆ ที่เคยคลุกคลีกับเจ้าโทน ต่างรู้สึกกังวลห่วงมาเรียมจะไม่ปลอดภัยจากเรือหากมาเรียมต้องออกไปใช้ชีวิตในธรรมชาติ เพราะมาเรียมคุ้นคน และคุ้นเรือจะว่ายน้ำเข้าไปหาเอง จึงเกรงจะไม่ปลอดภัย” นายยาเหตุ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image