จากกรณี กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกประกาศ ฮิโนกิแลนด์ สถานที่ท่องเที่ยว ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เป็น 1 ใน 10 แหล่งวัฒนธรรมต้องไป ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดถึงความไม่เหมาะสมนั้น
วันที่ 27 มิถุนายน นายชุติพันธ์ สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นอดีตประธานสภาวัฒนธรรม อ.ดอยสะเก็ด เผยกรณีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้แจ้งเรื่องถอดถอนฮิโนกิแลนด์ ออกจากประกาศ 10 แหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป ว่า ได้รับหนังสือดังกล่าว วันที่ 21 มิถุนายน หรือ 6 วันที่ผ่านมา รู้สึกขอบคุณและดีใจที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม รับฟังเสียงสะท้อน ส่วนตัวมีความพีงพอใจ จึงยุติเรื่องฟ้องศาลปกครองเชียงใหม่ เพราะทุกอย่างจบแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นคดีความ ส่วนตัวไม่คิดทะเลาะกับใคร แต่ทำไปเพื่อฟื้นฟูอนุรักษ์ วัฒนธรรมท้องถิ่น ที่เป็นอัตลักษณ์ล้านนา ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น
เหตุที่ลุกขึ้นมาคัดค้านเรื่องดังกล่าว เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ขัดต่อวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น อีกทั้งมีการขับเคลื่อนผลักดันเชียงใหม่ไปสู่มรดกโลก เพราะมีอายุ 723 ปีแล้ว จึงไม่ควรมีเรื่องดังกล่าวมาเกี่ยวข้อง เพราะเป็นวัฒนธรรมและวิถีชีวิตต่างชาติ หากต้องการประเทศให้สถานที่ใดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ควรให้สภาวัฒนธรรมตำบล สภาวัฒนธรรมอำเภอ และสภาวัฒนธรรมจังหวัดพิจารณาเห็นชอบก่อน เพราะเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิตชุมชน อัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่น
นายอนิรุทธิ์ จึงสุดประเสริฐ ประธานบริหารบริษัทบ้านไม้หอมฮิโนกิไชยปราการจำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการฮิโนกิแลนด์ บ้านร้องธารหมู่ 6 ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องกรมส่งเสริม
วัฒนธรรม ถอนฮิโนกิแลนด์ออกจากประกาศดังกล่าว เพราะไม่มีหนังสือแจ้ง อีกทั้งไม่ทราบเรื่องตั้งแต่ต้น ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จึงไม่รู้สึกยินดียินร้าย ไม่ได้ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลง ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ หรือครอบครัวอย่างใด ทุกอย่างยังดำเนินไปตามปกติ
“ไม่รู้สึกเสียใจ หรือผิดหวัง ที่ฮิโนกิแลนด์ถูกถอดถอน แต่ขอบคุณคณะกรรมการพิจารณาที่เห็นคุณค่ามากกว่า ซึ่งผมได้ขอโทษกับคนเห็นต่างไปแล้ว ว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไปวิ่งเต้นใด ๆ ซึ่งได้บอกคณะกรรมการพิจารณาชัดเจนแล้วว่า ฮิโนกิแลนด์ไม่ใช่วัฒนธรรมไทย แต่เป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นร่วมสมัย ที่สร้างงานและรายได้แก่ชุมชน 1,200 ครอบครัว ซึ่งเป็นหน้าที่และภารกิจหลักของผม ดังนั้นจึงขอใช้เวลาทีเหลือดูแลครอบครัวใหญ่ก่อน ไม่มีเวลาไปทะเลาะกับใครหรอก” นายอนิรุทธิ์ กล่าว
นายอนิรุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่ใช่นักการเมืองที่ต้องไปหาเสียงกับใคร และไม่ให้ราคากับคนที่จะไปร้องศาลปกครอง เพื่อขอคำสั่งให้ถอนฮิโนกิแลนด์ออกจากประกาศ 10 แหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป เพราะไม่
เกี่ยวข้องตน และฮิโนกิแลนด์ตั้งแต่แรก ดังนั้นจึงขอทำธุรกิจกับชุมชนที่ต้องดูแล 1,200 คน ให้งานที่มั่นคงและรายได้ที่เพียงพอ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตดีกว่า