เผยผลผ่าพิสูจน์ซาก ‘พะยูน’ ตายแบบเฉียบพลัน เชื่อพลัดหลงกับแม่แล้วเกยตื้นตาย

ตามที่ชาวประมงพื้นบ้านพบซากพะยูนเพศผู้เกยตื้นตายบริเวณหลังเกาะเม็ง หมู่ 4 ต.ไม้ฝาก อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่เขตอนุรักษ์พะยูนและแหล่งหญ้าทะเล ของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม อุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา จากนั้นได้นำซากไปที่สถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง เพื่อให้ทีมสัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน ทำการผ่าพิสูจน์ซาก โดยทีมดังกล่าวเป็นชุดเดียวกับที่ปฏิบัติภารกิจดูแลอนุบาลมาเรียม พะยูนน้อยอีกตัวที่พลัดหลงกับแม่ แต่ชาวบ้านช่วยเหลือไว้ได้ และนำมาอนุบาลบริเวณอ่าวดุหยง ต.เกาะลิบง จ.ตรัง นั้น

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมสัตวแพทย์ได้รายงานผลการผ่าพิสูจน์ซากพะยูนน้อยแล้ว พบว่าเป็นลูกพะยูนเพศผู้ ขนาดความยาว 110 เซนติเมตร (ซม.) น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม (กก.) อายุไม่เกิน 6 เดือน สภาพซากเน่ามาก สภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ปกติ ด้านหลังมีรอยถลอกที่เกิดจากการเกยตื้น ส่วนบริเวณโคนหางและหางมีรอยรัดจากการที่ชาวประมงผูกแล้วลากกลับเข้าหาฝั่ง อวัยวะภายในเน่าและเสียสภาพ แต่ในส่วนของกระเพาะอาหารพบว่า มีหญ้าทะเลอัดแน่นอยู่ภายใน จึงสันนิษฐานสาเหตุการตายว่า พะยูนตัวดังกล่าวว่า เป็นการตายแบบเฉียบพลัน เนื่องจากพบว่าร่างกายสมบูรณ์ไม่มีรอยโรคที่บ่งชี้ถึงการป่วย และสามารถกินอาหารได้เป็นปกติ ทั้งนี้ เชื่อว่าพะยูนน้อยตัวนี้ จะต้องพลัดหลงกับแม่ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและคลื่นลมเมื่อประมาณต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หาแม่ตัวเองไม่พบ และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงต้องเกยตื้นตายขณะน้ำลงต่ำสุด

Advertisement

ทั้งนี้ ถือเป็นข่าวเศร้าของชาวประมงพื้นบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ และประชาชนที่ทราบข่าว เนื่องจากพะยูนน้อยตัวนี้ขนาดเท่ากับมาเรียม ตอนที่พลัดหลงกับแม่ที่ จ.กระบี่ แต่โชคดีชาวบ้านพบเห็นว่ายน้ำตามเรือและเข้ามาเกยตื้น จึงช่วยเหลือไว้ได้ แต่พะยูนน้อยตัวนี้ โชคร้ายไม่มีคนไปพบและช่วยเหลือได้ทัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image