รวบ ‘สิบตรี’ หื่น ขี่รถประกบสาว ถีบล้มก่อนบังคับขืนใจให้อมนกเขา

กรณี น.ส.แอน นามสมมุติ อายุ 42 ปี ชาว จ.อุดรธานี แจ้งความตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี หลังถูกไอ้หื่นขี่รถ จยย.ประกบถีบรถล้ม ก่อนชกท้องลากเข้าไปข่มขืนใจด้วยการบังคับให้ใช้ปากอมนกเขา เพื่อสำเร็จความใคร่ โชคดีมีชาวบ้านปั่นจักรยานออกกำลังกายผ่านมา จึงวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ และไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนมาแจ้งตำรวจให้ช่วยตามล่าไอ้หื่นมาดำเนินคดี ก่อนนำตำรวจตรวจที่เกิดเหตุ พบโทรศัพท์มือถือคนร้ายตกอยู่ เป็นมือถือของทหารยศสิบตรี แต่ยังปากแข็งอ้างมือถือตกหายหลายวันแล้ว เหตุเกิดเช้าตรู่วันที่ 30 มิถุนายน ที่ซอยนาทราย 2 บ้านนาทราย ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 กรกฎาคม ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนภูธร จ.อุดรธานี นายทหารธรรมนูญ ได้นำตัว สิบตรียุทธนา ติดมา อายุ 23 ปี ทหารสังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี มาส่งตัวให้กับ พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี หลังศาลทหารออกหมายจับ ก่อเหตุขับขี่ จยย. ใช้เท้าถีบรถ จยย.สาวแคชเชียร์ล้มลากเข้าไปในป่าบังคับให้ “อมนกเขา” แต่เหยื่อหนีออกมาได้ เหตุเกิดเช้าตรู่วันที่ 30 มิถุนายน ที่ซอยนาทราย 2 บ้านนาทราย ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี มีโทรศัพท์มือถือผู้ต้องหาตกอยู่เป็นหลักฐาน

สิบตรียุทธนา ติดมา อายุ 23 ปี ถูกนำตัวมาในชุดพลเรือน สวมเสื้อยืดคือกลมสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ และสวมหมวกแก๊ปสีดำ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยกระการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น” โดยใช้เวลาสอบประมาณ 1 ชม.จึงแล้วเสร็จ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะนำตัว สิบตรียุทธนาฟ้องศาลทหาร

Advertisement

ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ ที่ตกในที่เกิดเหตุพบว่าของเป็นทหาร “ยศสิบตรี” จึงประสานผู้บังคับบัญชา ทหารรัฐธรรมนูญ นำทหารที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบถาม โดยครั้งแรกให้การปฏิเสธ เมื่อเข้าตรวจค้นบ้านพักในค่ายทหาร พบเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ มีเสื้อยืดสีดำ เสื้อคลุมสีดำแทบขาว มีฮูดคลุม รองเท้าแตะสีดำ หมวกกันน็อก รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน เลขทะเบียน 1กก 8064 อุดรธานี ซึ่งผู้เสียหายชี้ยืนยันว่าเป็นเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ในวันก่อเหตุ

พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารับว่าก่อนเกิดเหตุดื่มสุราจนเมา และได้ขี่รถ จยย.แวะมากินก๋วยเตี๋ยว และมาเจอผู้เสียหายได้เข้าไปคุยกัน ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จนผู้เสียหายขี่รถ จยย.กลับบ้าน จึงขี่รถ จยย.ของตัวเองตามไป ซึ่งทางผู้เสียหายก็รู้ว่าถูกตาม เพราะได้ขี่รถฝ่าไฟแดง และผู้ต้องหาก็ฝ่าไฟแดงตาม และรถของผู้ต้องหาเร็วกว่า จึงขี่ไปทันกันที่จุดเกิดเหตุ และก่อเหตุส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวน ที่บางเรื่องยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา ไม่เคยมีเรื่องอื่น ๆ มาก่อน

“ เราได้ประสานผู้บังคับบัญชาผู้ต้องหามาตลอด จนวันนี้ทางผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหา ได้ให้นายทหารธรรมนูญ นำตัวมาส่งเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยจะต้องส่งตัวดำเนินการตามกระบวนการฟ้องที่ศาลทหาร หลังจากสอบสวนปากคำเสร็จ ได้ส่งตัวฝากขังที่ศาลทหาร โดยขอให้ผู้เสียหายมั่นใจได้ว่า จะได้รับความเป็นธรรมแน่นอน ซึ่งทางตุลาการศาลทหาร ท่านให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว เช่นเดียวกับทางตำรวจ ที่จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ผมจะไปชี้แจงผู้เสียหายให้เข้าใจ ขณะผู้ต้องหาต้องถูกดำเนินการทางวินัยอยู่แล้ว ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image