แกนนำประมงพื้นบ้านแจ้งเดินหน้าจับสัตว์น้ำ งดกักตุน หลังหยุดเรือประท้วงมาตรา 57

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านทุ่งน้อย ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะแกนนำสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้แจ้งข้อมูลด่วนที่สุดถึงพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านทั่วประเทศ เพื่อให้ชาวประมงทุกพื้นที่ 22 จังหวัดทั่วประเทศ เตรียมออกเรือจับสัตว์น้ำตามปกติ ส่งสัตว์น้ำให้ผู้บริโภคมีอาหารอย่างเพียงพอและทั่วถึง โดยไม่ต้องกักตุน เพื่อแบ่งปันอาหารทะเลให้ครอบคลุมทั้งโรงแรม ร้านอาหารและตลาด สำหรับสาเหตุที่ต้องประกาศข่าวด่วน เนื่องจากนายกสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ได้ประกาศหยุดเรือทั่วประเทศของฝ่ายประมงพาณิชย์ เพื่อประท้วง มาตรา 57 ในพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง 2558 ที่จะกำหนดขนาดพันธุ์สัตว์น้ำเศรษฐกิจที่กำลังจะสูญพันธุ์ ที่หลายภาคส่วนเห็นตรงกันว่าไม่ควรจับสัตว์น้ำวัยอ่อนหรือลูกปลาขึ้นมาก่อนวัยอันควร เพราะจะทำให้ระบบห่วงโซ่ทั้งระบบ พร้อมทั้งการทดแทนรุ่นสู่รุ่น ขาดหายไป

“จากการหยุดเรือดังกล่าว เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคภายในประเทศมีปัญหาขาดแคลนอาหารทะเล จึงขอความร่วมมือพี่น้องประมงพื้นบ้านทั่วประเทศ ออกเรือจับปลาตามปกติ ไม่ต้องกักตุนอาหารทะเล เพื่อความเป็นธรรมกับผู้บริโภคและให้ร้านคนจับปลาในประเทศที่มี 5 สาขา เตรียมส่งอาหารทะเล ให้ครอบคลุม และจัดซื้อสัตว์น้ำจากชาวประมงพื้นบ้านเพิ่ม ในอัตราส่วนที่เพียงพอกับความต้องการ ผมขอส่งข่าวด่วนนี้ถึงชาวประมงพื้นบ้านทุกพื้นที่ ช่วยกันส่งข่าวขอความร่วมมือผู้บริโภค ไม่ต้องวิตกกับคำขู่โดยเอาความเห็นแก่ตัวมาต่อรองกับเศรษฐกิจของประเทศ” นายปิยะกล่าว และว่า ประกาศนี้ลงนามโดยตน นายสะมะแอ เจะมูดอ นายอาหลี ชาญน้ำ น.ส.สุภาพร พรรณนารายณ์ นายเจริญ โต๊ะอิแต ในฐานะตัวแทนสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย

ล่าสุดได้ออกแถลงการณ์ในนามสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย “หยุดจับ หยุดซื้อ หยุดขาย หยุดกิน โดยรัฐบาลต้องกำหนดมาตรการไม่ให้มีการจับสัตว์น้ำวัยอ่อนเร่งด่วน เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ทรัพยากรสัตว์น้ำบางชนิดลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะปลาทู โดยมีการยืนยันจากหลายหน่วยงานว่ามีความเสี่ยงจะสูญพันธุ์ หลังจากที่ผ่านมาเครือข่ายได้ขอให้ยุติการจับสัตว์น้ำโดยเครื่องมือทำลายล้าง เนื่องจากมีการจับสัตว์น้ำวัยอ่อนในปริมาณที่มากเกินกว่าจะเติบโตได้ทัน แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานรัฐ ทั้งที่มีกฎหมายรองรับตามอำนาจหน้าที่

แถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลต้องกำหนดให้ชาวประมงทุกชนิดทุกประเภทห้ามจับสัตว์น้ำเศรษฐกิจวัยอ่อน พร้อมเร่งดำเนินการเร่งรัดบังคับใช้มาตรา 57 ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง 2558 กำหนดขนาดพันธุ์สัตว์น้ำที่ไม่ได้ขนาด โดยเริ่มจากปลาทูและปูม้า ในกระบวนการกำหนดต้องมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งภาครัฐ นักวิชาการ ชาวประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ ผู้บริโภค องค์กรสาธารณะด้านสิ่งแวดล้อม สื่อมวลชน โดยใช้หลักฐานทางวิชาการ คำนึงถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวทางการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและ “หลักการการป้องกันล่วงหน้า” เพื่อสร้างหลักประกันการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยังยืนทั้งระบบ สำหรับในระยะยาวขอให้คณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ และรัฐบาล เร่งกำหนดนโยบายป้องกันการจับสัตว์น้ำเศรษฐกิจวัยอ่อนที่ยังไม่ได้ขนาดชนิดอื่นด้วย ทั้งนี้สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย และเครือข่ายสมาชิก จะเดินทางไปกรุงเทพฯเพื่อติดตามข้อเรียกร้องทันที ที่มีการตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จสิ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image