จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความประกาศหาคนหาย ระบุว่า ผู้สูญหายชื่อนายอุไทย เว้นบาป อายุ 36 ปี ชาว ต.บ้านผือ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้เดินทางจากประเทศฮังการีกลับมายังประเทศไทยในวันที่ 15 มิ.ย.2562 แต่ระหว่างทางมีการต่อเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชเรเมเตียโว กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ซึ่งนายอุไทยได้หายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้ จึงวอนขอความช่วยเหลือผู้ใดพบขอให้ช่วยแจ้งเบาะแส
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนางประภัสสร พรมเจริญ อายุ 32 ปี ชาว ต.บ้านผือ อ.โพนพิสัย เพื่อสอบถามข้อมูลทราบว่า นายอุไทยเป็นพี่ชายของตนเอง ได้เดินทางไปทำงานที่ร้านอาหารไทยในประเทศฮังการีพร้อมกับญาติอีก 2 คน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 จนกระทั่งวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา นายอุไทยต้องเดินทางกลับประเทศไทย เนื่องจากครบกำหนดระยะเวลาการทำงาน โดยญาติได้ซื้อตั๋วเครื่องบินให้เดินทางจากสนามบินประเทศฮังการีมายังท่าอากาศยานนานาชาติเชเรเมเตียโว กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย และต้องรออีก 2 ชั่วโมงเพื่อขึ้นเครื่องต่อกลับมายังประเทศไทย โดยมีกำหนดมาถึงประเทศไทยในวันที่ 16 มิถุนายน แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาไม่พบนายอุไทย และไม่สามารถติดต่อกับนายอุไทยได้ ทางญาติพี่น้องจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็ทราบว่านายอุไทยไม่ได้เดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย ตนจึงได้ไปลงประกาศหาคนหายในเพจต่างๆ ของเฟสบุ๊กเพื่อตามหาพี่ชาย รวมทั้งเพจคนไทยในรัสเซียและคนไทยในฮังการี
ต่อมา ตนได้รับการติดต่อจากจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Dmitry Savenkov พนักงานร้านกาแฟแห่งหนึ่งภายในท่าอากาศยานนานาชาติเชเรเมเตียโว กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ว่า พบนายอุไทยอยู่ภายในสนามบิน โดยระบุว่าในวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมได้ส่งคลิปวิดีโอมาให้ดู โดยนายอุไทยได้อยู่ในอาการมึนเมา ไม่สวมรองเท้า ถอดเสื้อมาโพกที่ศีรษะ ไม่มีกระเป๋าและหนังสือเดินทาง โดยนายอุไทยพยายามลากเก้าอี้เหล็กที่นั่งพักของผู้โดยสารพร้อมส่งเสียงโวยวาย และพยายามจะเข้าไปภายในร้านกาแฟที่นาย Dmitry ทำงานอยู่ นาย Dmitry จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาระงับเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คนได้ความคุมตัวนายอุไทย ซึ่ง นาย Dmitry ได้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจภายหลัง ทราบว่าหลังจากที่นายอุไทยอยู่ในอาการสงบแล้วก็ได้ปล่อยตัวไป แล้วก็ไม่พบตัวนายอุไทยอีกเลย นอกจากนี้ยังมีผู้ส่งภาพวงจรปิดภายในสนามบินมาให้ดู พบว่านายอุไทยได้ป้วนเปี้ยนอยู่ในสนามบินและมีผู้นำอาหารมาให้กิน
ล่าสุด ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งติดต่อมาว่าพบนายอุไทยและจะช่วยดำเนินการช่วยซื้อตั๋วเครื่องบินและส่งตัวกลับมายังประเทศไทย แต่เมื่อกลับไปที่สนามบินอีกครั้งก็ไม่พบตัวนายอุไทยอีก ตนและญาติเป็นห่วงนายอุไทยมาก เพราะทราบว่าระหว่างเดินทางนายอุไทยมีเงินติดตัวเพียงแค่ 9 ยูโรเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับได้อย่างแน่นอน และตนเชื่อว่าพี่ชายยังอยู่ในประเทศรัสเซีย
ต่อมา นายคิด เว้นบาป อายุ 56 ปี พ่อของนายอุไทย ได้เดินทางไปให้ข้อมูลและขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนพิสัย
ด้าน พ.ต.อ.ภูวิศ ศิริพาณิช ผกก.สภ.โพนพิสัย เปิดเผยว่า ได้ให้ทางญาติของนายอุไทยไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อรวบข้อมูลทั้งหมดของนายอุไทยระหว่างการเดินทางและช่วงเวลาที่นายอุไทยหายตัวไป โดยข้อมูลทั้งหมดที่ได้จะถูกส่งต่อไปยังกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ช่วยประสานงานไปยังตำรวจรัสเซียช่วยตามหาเบาะแสและติดตามตัวกลับมาประเทศไทยให้ได้
