เดินขบวนไล่ ‘ผอ.แจ๊ค’ ร.ร.พรหมานุสรณ์ ข้อหาทุจริต ไม่โปร่งใส ขาดธรรมาภิบาล

เดินขบวนขับไล่ “ผอ.แจ๊ค” ร.ร.พรหมานุสรณ์ จ.เพชรบุรี ผู้ปกครอง-นักเรียน-ครู สุดทน ร่วมยื่นหนังสือต่อ ผอ.สพม.เขต 10 กล่าวหากระทำผิดกว่า 30 ข้อ ทั้งทุจริต ไม่โปร่งใส และขาดธรรมาภิบาล ด้าน “ผอ.แจ๊ค” ชิงยื่นจดหมายลาออก ปิดโทรศัพท์ และไม่มาโรงเรียน โพสต์จดหมายชี้แจงกรณี “กิจกรรมค่ายคุณธรรมให้นักเรียนคาบรองเท้า” แต่ประเด็นอื่นยังเงียบ

เมื่อเวลา 09.00 น วันที่ 8 กรกฎาคม ตัวแทนสมาคมนักเรียนเก่าพรหมานุสรณ์ นำโดยนายสุกิจ ปวีณะปกรณ์ นายกสมาคม นำผู้ปกครองนักเรียน คณะครู คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง รวมจำนวนกว่า 100 คน เดินขบวนถือป้ายมีข้อความต่างๆ อาทิ “พรหมานุสรณ์ไม่เอาคนโกง” “ลูกฉันโดนคาบรองเท้า ผอ.ไปอยู่ไหน” เดินเท้าจากตลาดเพชรไพบูลย์ ถ.บันไดอิฐ ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งอยู่เยื้องโรงเรียนพรหมานุสรณ์ เข้าไปในโรงเรียน เพื่อยื่นหนังสือต่อ ว่าที่ ร.ต.นพดล รักษ์แก้ว ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 10 ขอให้พิจารณาย้ายนายธีรศักดิ์ พิงภักดิ์ ผอ.ร.ร.พรหมานุสรณ์ โดยขอให้ย้ายออกนอกพื้นที่ในทันที พร้อมขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน ซึ่ง ผอ.สพม.เขต 10 ที่เพิ่งเดินทางมารับตำแหน่งและมีพิธีต้อนรับที่ห้องประชุม ร.ร.พรหมานุสรณ์ เป็นผู้รับมอบหนังสือด้วยตนเอง

หนังสือร้องเรียนระบุว่า สมาคมนักเรียนเก่าพรหมานุสรณ์ คณะครู นักเรียน ร.ร.พรหมานุสรณ์ และคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียน พบว่านายธีรศักดิ์บริหารโรงเรียนไม่โปร่งใสและส่อไปทางทุจริตหลายเรื่อง ขาดธรรมาภิบาลในการบริหาร เกิดปัญหาสะสมเรื่อยมาเป็นเวลานาน อาทิ ไม่แสดงความรับผิดชอบและแก้ปัญหากรณีนักเรียนชั้น ม.5 ถูกพระวิทยากรให้คาบรองเท้าในกิจกรรมค่ายคุณธรรมเมื่อวันที่ 29-30 มิถุนายน 2562 ส่งผลกระทบต่อจิตใจนักเรียนโดยรวม ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของโรงเรียน มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต อาทิ ไม่ชี้แจงรายรับรายจ่ายเป็นลายลักษณ์อักษรเรื่องเงินผ้าป่าเพื่อจัดสร้างศาลาหลวงปู่ป่าแก้ว ซึ่งมีรายรับเกือบ 10 ล้านบาท กรณีจัดซื้อรถบรรทุก 6 ล้อแล้วดัดแปลงเป็นรถโรงเรียนไม่โปร่งใส เรียกเก็บเงินเพิ่มเติมในการพัฒนาผู้เรียนและไม่ชี้แจงที่มาที่ไปของการใช้เงิน จัดจ้างอัตราบุคลากรคือนายวิบูลย์ หิรัญวงศ์ และนายพลเทพ ทับศรีนวล โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนของโรงเรียน และนำบุคลากรเหล่านั้นไปใช้งานส่วนตัวผิดซึ่งวัตถุประสงค์และไม่ทราบที่มาที่ไปของงบประมาณที่มาของการจ้าง มีพฤติกรรมเรื่องการรับเงินนักเรียนสอบเข้าระดับ ม.1 และ ม.4 จัดซื้อจัดจ้างที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เช่น บริษัทที่มาก่อสร้างสิ่งต่างๆ ในโรงเรียนมักเป็นบริษัทของว่าที่ลูกสะใภ้และลูกชาย ซื้อยาและเวชภัณฑ์ของโรงเรียนมีราคาสูงกว่าท้องตลาดทั่วไป (บุตรชายนายธีรศักดิ์มีร้านขายยา) ใช้งบประมาณ 3 ล้านบาท สร้างห้องน้ำติดแอร์ แต่อาคารดังกล่าวปิดล็อกไม่ได้ใช้ประโยชน์ ซื้อหินประดับ 3 ก้อนราคาก้อนละหลายหมื่นบาทโดยไม่เกิดประโยชน์ จัดเก็บรายได้จากร้านค้าต่างๆ ในโรงอาหารของโรงเรียนแต่ไม่นำรายได้ดังกล่าวมาซ่อมแซม ปรับปรุงอุปกรณ์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพที่ดี เช่น ช้อน ส้อม จาน ชาม โต๊ะ เครื่องกรองน้ำ เครื่องล้างจาน พัดลม ฯลฯ จัดซื้อเครื่องสแกนบัตรนักเรียนบ่อยครั้ง และไม่มีคุณภาพ ไม่ซ่อมแซมห้องเรียนและสื่อการสอนต่างๆ ให้มีสภาพที่ใช้งานได้โดยบางเรื่องมีการแจ้งแล้วแต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ การบริหารงบประมาณและการใช้เงินและการจัดซื้อจัดจ้าง มีเฉพาะกลุ่มคนที่รู้กันภายในเพียง 2-3 คนเท่านั้น โดยปิดบังข้อมูลต่างๆ ต่อคณะครู

Advertisement

หนังสือยังกล่าวหานายธีรศักดิ์นำรถโรงเรียนซึ่งเป็นทรัพย์สินของราชการไปใช้ส่วนตัว สั่งรื้อศาลาแปดเหลี่ยมในโรงเรียนโดยพลการ ซึ่งเป็นศาลาที่พักรอของนักเรียนโดยไม่ฟังคำคัดค้าน โดยอ้างเหตุผลที่จะก่อสร้างเป็นอาคารพยาบาลโดยเงินบริจาคแทนที่ นอกจากนี้ ในวันที่ 12-17 กรกฎาคม มีโครงการนำคณะครูทั้งโรงเรียนไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ขณะที่เด็กนักเรียนกำลังจะสอบในวันที่ 19-25 กรกฎาคม การไปเที่ยวครั้งนี้เป็นการใช้คำว่าไปศึกษาดูงาน แต่ดูจากโปรแกรมทัวร์แล้วไม่มีสถานที่ใดที่จะมีประโยชน์ในการดูงาน มีคุณครูหลายคนท้วงติงแต่ไม่เป็นผล นอกจากนี้ ยังได้ใช้งบพัฒนาบุคลากรเป็นจำนวนมาก

Advertisement

นอกจากนี้ ทางด้านการปกครองและธรรมาภิบาล นายธีรศักดิ์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง อาทิ ใช้คำพูดต่อครูและนักเรียนและผู้ปกครองอย่างไม่สุภาพและหยาบคาย ทำให้ครูและนักเรียนมีสภาพจิตใจหวาดกลัวและหวาดระแวง มีความไม่เป็นธรรมในการปรับขั้นเงินเดือนครูโดยไม่มีหลักฐานมาอ้างอิง มีพฤติกรรมสร้างความแตกแยกในโรงเรียน นำทรัพย์สินของราชการเป็นทรัพย์สินของตน เช่น รื้อกระเบื้องหลังคาหอประชุมและนำไปไว้ที่บ้านของตนเอง และปัจจุบันนายธีรศักดิ์มีทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ ทั้งบ้าน เงิน รถและที่ดิน และยังปลดหนี้สหกรณ์เป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท

ก่อนหน้านี้คณะผู้ร้องเรียนได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนกล่าวหานายธีรศักดิ์ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สพฐ. ศูนย์ดำรงธรรม ฯลฯ เพื่อให้ตรวจสอบนายธีรศักดิ์ในประเด็นต่างๆ ดังกล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันที่ 8 กรกฎาคม มีเพจเฟซบุ๊กโรงเรียนพรหมานุสรณ์จังหวัดเพชรบุรี ได้เผยแพร่เอกสารที่นายธีรศักดิ์ซึ่งจะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 กันยายน 2562 ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการต่อ สพม.เขต 10 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 โดยระบุว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ ไม่อยู่ในระหว่างถูกกล่าวหาและถูกดำเนินการทางวินัย

นอกจากนี้ นายธีรศักดิ์ได้มีการเผยแพร่จดหมายเปิดผนึกถึงนักเรียนระดับชั้น ม.4 นักเรียนพี่เลี้ยงที่ร่วมกิจกรรมค่ายคุณธรรมเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และผู้ปกครองนักเรียนทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยแสดงความเสียใจและขอโทษกรณีเกิดเหตุพระวิทยากรสั่งให้นักเรียนพี่เลี้ยงคาบรองเท้าในวันสุดท้ายของกิจกรรม

ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังนายธีรศักดิ์ เพื่อขอคำชี้แจงในกรณีที่ถูกร้องเรียนเรื่องอื่นๆ แต่นายธีรศักดิ์ปิดเครื่องโทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image