เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม แหล่งข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์ราคายางพารา พบมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะน้ำยางสด จากราคากิโลกรัม (กก.) ละ 53 บาทเมื่อสัปดาห์ก่อน ในสัปดาห์นี้ลดลงต่อเนื่องจนถึงวันนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 45 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวสวนยางอย่างมาก โดยในภาพรวมนั้นราคายางพาราตกต่ำต่อเนื่องนานกว่า 2 ปี แม้รัฐจะมีแนวทางในการแก้ไขแต่กลับไม่มีการปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะตลาดส่งออกยังเป็นตลาดเดิมๆ และยังเป็นการส่งออกวัตถุดิบมากกว่าการนำมาใช้เองภายในประเทศ ในขณะที่แนวคิดในการทำถนนจากยางพารา แม้จะมีการพูดคุยกันมานานแต่ในทางปฏิบัติกลับไม่ได้มีความจริงจัง ล่าสุด นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาทในการทำถนนจากยางพารา 400 สายทั่วประเทศนั้น ทำให้ประเมินกันว่าน่าจะมีผลดีต่อสถานการณ์ราคายางพารา
นายสมพงษ์ ราชสุวรรณ ประธานกลุ่มน้ำยางบ้านพรุเตียว อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ถ้าหากมีการดำเนินการอย่างจริงจัง ผลิตภัณฑ์ยางจะหายไปจากท้องตลาด ซึ่งจะทำให้มีความต้องการในการซื้อยางเพิ่มสูงขึ้น เชื่อว่าจะมีส่วนทำให้ราคายางพาราปรับเพิ่มสูงขึ้น ที่ผ่านมาก็มีหลายแนวทางในการแก้ปัญหาราคายางพารา แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้มีการดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ได้มีการหาตลาดใหม่ๆ ยังอิงตลาดเดิมและส่งออกวัตถุดิบเช่นเดิม ทำให้ราคายางพารามีแนวโน้มที่จะปรับลดลงต่อเนื่อง โดยการนำน้ำยางสดไปเป็นส่วนผสมในการทำถนนนั้นคิดว่าทางการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จะต้องควบคุมดูแลในเรื่องของคุณภาพน้ำยางสดที่จะใช้และจะมีการซื้อผ่านสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร
“เชื่อว่าหากปฏิบัติอย่างจริงจัง ก็จะสามารถช่วยในเรื่องราคาให้ดีดตัวเพิ่มสูงขึ้นได้ และในระยะสั้นๆ เชื่อว่า โครงการนี้ จะสามารถส่งผลทางจิตวิทยา ทำให้ราคาดีดตัวขึ้นมาในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน” นายสมพงษ์ กล่าว
